All posts by admin

คาถาพระแม่ธรณี ของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท

https://www.youtube.com/watch?v=hOEJ8FJMpc8

คาถาพระแม่ธรณี ของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท

ตั้งนะโม ๓ จบ

“ตัสสา เกสีสะโต ยะถาคังคา โสตัง ปะวัตตันติ มาเรเสนา อาสักโกนโต ปะลายิงสู ปะระมิตานุภาเวนะ มาระเสนา ปะราชิตา ทิโส ทิสัง ปะลายันติ วิทังเสนติ อะเสสะโต”

เรื่องมนต์พระแม่ธรณีนี้ มีเรื่องเล่าสมควรบันทึกเอาไว้ คือ เดิมหัวเด่นและบ้านแคนี้ ใช้น้ำกินและอาบจากบ่อเดียวกัน เพราะเป็นที่ดอน บ่อนั้นได้ขุดและใช้ไม้แก่นรูปสี่เหลี่ยมมาวางขัดกัน ป้องกันดินพังลงไปในบ่อน้ำที่ได้เป็นน้ำซึมบ่อทราย ต้องรีบมาตักตอนเช้ามืดจึงจะได้น้ำมากหน่อย ตอนเย็นก็อาศัยน้ำจากบ่อนี้อาบเช่นกัน ลำบากมาก เหตุการณ์ได้เป็นมาแบบนี้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่สมัยใด เคยมีคนพยายามจะขุดบ่อน้ำผลคือ ต้องขุดไปลึกมาก ลึกขนาดมองไม่เห็นตัวคนขุดยังไม่พบน้ำเลย จนกระทั่งมาถึงยุคสมัยของหลวงพ่อ ลูกศิษย์ของท่านที่เป็นคนใหญ่คนโตก็พอมี ได้ติดต่อกับ กรมทรัพยากรธรณี ได้มาสำรวจและได้ทำการขุดเจาะอยู่นานหลายวัน กินข้าววัดไปก็เยอะได้ขุดลงไปลึกมาก อาจไปถึงเมืองบาดาลหรือเมืองนรกก็ได้

จนกระทั่งวันหนึ่งทางคณะกรมทรัพยากรธรณีหมดหนทาง ได้บอกร่ำลากับกรรมการวัดโดยไม่กล้าขึ้นไปบอกหลวงพ่อ ฝ่ายกรรมการวัดกลัวว่าจะไม่มีน้ำบาดาลใช้ ได้รีบวิ่งขึ้นมาบอกกับหลวงพ่อบนกุฏิว่า กรมทรัพพยากรธรณีเขาจะกลับแล้ว เพราะขุดไปลึกเท่าไรก็ไม่เจอน้ำ เมื่อหลวงพ่อรู้ท่านได้พูดว่า ให้พวกมันรออยู่ก่อน สักพักนึ่งทางกรรมการวัด ทางศิษย์และทางคณะกรมทรัพยากรธรณี ก็เห็นหลวงพ่ออุ้มบาตรเดินมาที่ท่อน้ำบาดาลที่กำลังขุด เมื่อท่านเทน้ำลงไปแล้วท่านก็หันหลังกลับ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้น ต่างตกตะลึงในความมหัศจรรย์ คือ น้ำบาดาลที่กำลังขุดเจาะอยู่ ได้ไหลพุ่งขึ้นมาอย่างแรง สูงระดับยอดไม้เลย ทุกคนต่างดีใจร้องไชโย เล่นน้ำกันสนุกสนาน แม้หลวงพ่อจะหันหลังหนีแต่ก็ไม่พ้น หลวงพ่อก็เปียกน้ำ เมื่อหลวงพ่อจะขึ้นกุฏิ ศิษย์ใกล้ชิดได้ถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อใช้คาถาบทไหนทำน้ำมนต์ หลวงพ่อท่านได้พูดว่า “คาถาพระแม่ธรณี”
(บันทึกโดย อ.เฒ่า สุพรรณ)

คาถานี้ใช้ได้ตามอธิษฐาน ทำน้ำมนต์แก้คุณเสนียดได้ผลดียิ่ง หากมีศัตรูให้เขียนชื่อนำแม่ธรณีทับไว้ อธิษฐานให้อภัยต่อกัน สวดคาถานี้ทำครบ 7 วัน ฝ่ายตรงข้ามจะแพ้ภัยตัวเองไป แต่อย่าจองเวรเขา จึงจะมีผล เวลามีเหตุให้นึกถึงแม่พระธรณีแล้วภาวนาคาถานี้

พระคาถาโสฬสฉบับเต็ม

พระคาถาโสฬสฉบับเต็ม
พระคาถาโสฬสฉบับเต็ม

โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นวโลกุตตะระธัมมะตา จัตตาโรมหาทีปา ปัจจพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะระตะถะ ปัญจะทะสะภะเวสัจจัง ทะสะมังสิระเมวะจะ เตรัสสะธุตังคาจะ ปาติหารัญจะทะวาทะสะ เอกะมะรุจะ สุราอัฏฐ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ เอกาทะสะวิษณุราชา ตรีนิสิงเห สัตนาเคเบญจะเพชรฉลูนะกัญเจวะ จตุเทวา ฉวัชราชา เบญจอินตรานะเมเจวะ เอกะยักขา นวเทวา ปัญจพรหมาสหบดี ทเวราชา อัฏฐอรหันตา ปัญจพุทธานะมามิหัง จตุโร นวโม ทเวโร ตรีนิ ปัญจะ สัตตะ อัฏฐ เอกะ ฉะวัชชะราชา สัพเพเทวานังปาลายันตุสัพพะทา เอเตนะมังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถีภะวันตุเม สักกัสสะวะชิราวุธัง ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง เวสสุวัณณัสสะ คะฑาวุธัง อาฬะวะกะสะ ทุสาวุธัง อายันตุโภนโตอิธะ ทานะสีละ เนกขัมมะ ปัญญา สะหะวิริยะขันติ สัจจะธิฏฐานะ เมตตุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะถะ สัพพศัตรู ปะลายันติ ฯ

พิธีกรรมการไหว้รับ-ส่งดาวพระพฤหัสบดี ด้วยตนเองที่หิ่งพระที่บ้าน ของที่ต้องเตรียม

พิธีกรรมการไหว้รับ-ส่งดาวพระพฤหัสบดี ด้วยตนเองที่หิ่งพระที่บ้าน

 พิธีกรรมการไหว้รับ-ส่งดาวพระพฤหัสบดี ด้วยตนเองที่หิ่งพระที่บ้าน ของที่ต้องเตรียม
พิธีกรรมการไหว้รับ-ส่งดาวพระพฤหัสบดี ด้วยตนเองที่หิ่งพระที่บ้าน
ของที่ต้องเตรียม

ของที่ต้องเตรียมfb_img_1681830619062

ธูป ๑๙ ดอก
เทียนสีส้ม ๑๙ แท่ง
ดอกไม้สีส้ม ๑๙ ดอก
ผลไม้ ๕ อย่าง หรือ ๑๙ อย่าง

ใส้เสื้อสีส้มทำพิธี

เชิญพระพฤหัสบดี
ครุเทว ข้าแต่เทพผู้ทรงนามชัด ว่าพระพฤหัสบดี พระพรรณฉวีปรีโด
ภาส เหลืองสะอาดพัสตราภรณ์ มฤคบวรเป็นอาสน์ทรง ขอจำนงนบวันทนา ครุ
เทวามฤคราช เชิญเสด็จสันนิบาตพร้อมบริวาร ในสถานมณฑล อันโสภณไพโรจน์
ชวลิตโชติชูหฤทัย ข้าตั๋งใจบรรจงจัด จำรูญรัตนพรรณพิเศษ ขอเชิญอมรเทเวศ
เสด็จมา รับเครื่องวรามิษบำบวง สังเวยสรวงเทวสักการ นานาวิธานธูปประทีป
เรียบก้านกลีบมาลาร้อย ระผ้าย้อยพุ่มพะนม น่าพึงชมตรูตา ภักษ์โภชซาของ
มนุษย์ อันบริสุทธิอุดมเลิศ ข้าบรรเจิดบรรจงถวาย อเนกหลายเลิศล้ำ เทพนั้น
ซ้ำเชิญบริรักษ์ พิทักษ์ (ออกนามเจ้าภาพ) นั้น ให้เปลื้องปราศจากโรค นฤโศก
เกษมสุข นฤทุกข์ปราศจากภัย กุศลใดยิ่งยง แด่ (ออกนามเจ้าภาพ) นั้นบำเพ็ญ
เป็นบุญญภาคย์พูนผล จงเปรมกมลรับส่วนบุญญ์ สุนทรธรรมพลี บรรดามีเหล่า
นั้น หทัยมั่นรับโมทนา ท้เทวาครุเทวราช ข้าอภิวาทคำนับน้อม บูชาพร้อมธรรมา
มิษ จงมีจิตต์กรุณา เชิญรักษา (ออกนามเจ้าภาพ) นั้น ให้เปลื้องปราศจากโรค
ไร้ เกษมสุขอย่าได้ เดือดร้อนอารมณ์ราญ
ครุเทพบริวารโศภิต อันไพจิตร์อดิเรก นานาเนกพ้นคณนา เสด็จมายัง
สถาน เชิญรับสักการเครื่องพลี ควรยินดีสองประการ เทพบริวารเหล่านั้น จิตต์
จงมั่นปรีดี ด้วยพิธีเทพบูชา เชิญเทพดาทั้งหมด จงเงือดงดโทษภัย สิ่งใดๆ อย่า
มี ข้องราคีพานพะ ใน (ออกนามเจ้าภาพ) นั้น ซึ่งประสาทเครื่องพลี เพื่อปรีดี
ปราโมทย์ เสร็จประโยชน์หมู่อมร จงเพิ่มพรสุขสวัสดิ์ ชนมายุวัฑฒโนดม สุขาภิ
รมสร่างเศร้า แด่ (ออกนามเจ้าภาพ) นั้น จงเจริญศรีสรรพประสิทธิ์ ด้วยเทพ
ฤทธิเดชานุภาพ จงทุกคาบนิรันดร สมดุจพรพร่ำให้ ขอจงสะดวกได้ ดังประสงค์
โสตถิ เทอญ
จบแล้ว สวดเจริญพระพุทธมนต์ บทของพระพฤหัส คือขัด
ตำนาน ปณิธานโต ปฎฐาย สวด รตนสูตร
ถ้าสวด นวคหายุสมธมุม ขัดตำนาน เวเนยุยทมโนปาเย สวด สญญ
๑๐ อนุปพุพวิหาร ๙

คาถาบูชาพระพฤหัสบดี
ชีวเทว นโม ตุยตุถุ
มิคุคพาหนยายิโน
โย โส ชีวมหาเทโว
ปิตาภรณภูสิโต
สห โส ปริวาเรน
อิธาคจุฉตุ มณุฑเล
ทสุสนีเย มนุญญมหิ
เทวารเห สุสชูซิเต
ทีปธูเป เจ ปุปผานิ
เทวาภิมานเน อิเม
มานุส ขซุชโภชฺชญฺจ
เทวสำเวสน์ อิมํ
สาธุ โน ชีวเทโว โส
ปฏิคคณุหาตุ สาธุกำ
ย์ ยญฺจ กุสล กุมมิ
สญจิต โน ยถาพลำ
ตสมิมุปิ ปุญญพืชมุหิ
ปตุติโก อนุโมทตุ
อิจเจว ชีวเทโว โส
ธมฺมามิเสหิ มานิโต
สมุมา ต อนุปาเลตุ
อาโรเคุยน สุเขน จ
อิมาย เทวปูชาย
อมุหั ขมนุตุ เทวตา
เทวาภิราธนตุถาย
พลิสกุการวาหสา
(ชื่อเจ้าภาพเป็นภาษาบาลี)
เมตุตํ กโรนฺตุ เทวตา
ชีวเทวานุภาเวน
สพฺพโสตุถี ภวนฺตุ เต ฯ

บูชาเทพพระพฤหัสบดี

” ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ” สวดตามกำลังเทพพระพฤหัสบดี คือ 19 จบ

“ อิติปิโส ภะคะวา พระพฤหัสบดีจะมัสมิงจะ พุทธะคุณัง จะ ธัมมะคุณัง จะ สังฆะคุณังสัพพะทุกขัง สัพพะภะยัง สัพพะโรคัง วิวัชชะเยสัพพะลาภัง ภะวันตุเม” 19 จบ

โอม..ข้าจะไหว้พฤหัสบดีมหามุนีเทวา ที่พระองค์ทรงเสด็จมาเสริมดวงชะตาแก่ข้า

“ข้าพเจ้า……….(ชื่อ-นามสกุล)……… ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าตั้งใจบำเพ็ญในครั้งนี้ขอให้ข้าพเจ้า รู้จักแต่คำว่ามี คำว่าไม่มีอย่าได้เกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้า…ขอให้ข้าพเจ้า รู้จักแต่คำว่าสำเร็จ คำว่าไม่สำเร็จอย่าได้เกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้า มีกำลังใจ สามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาขอให้ข้าพเจ้าจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดขอให้สำเร็จ

สมปรารถนาทุกประการ เจริญด้วย โชคดี ลากดี

เจริญสุข ไพรีพินาศ เจริญเทอญ เป็นผู้มีความบริสุทธิ์ ทั้งกาย วาจา และใจ ให้ได้สร้างความดีตลอดชีวิตขอให้ข้าพเจ้า …. (อธิษฐานขอพรเทวดา ตามความต้องการ)………ขอความปรารถนาทุกประการ จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ณ บัดนี้เป็นต้นไป เทอญ

ขอความปรารถนาทุกประการ จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ณ บัดนี้เป็นต้นไป เทอญ

หลังเสร็จพิธีไหว้พระพฤหัสบดีแล้ว ผลไม้นำมาล้างน้ำสะอาด รับประทานเอง ดอกไม้ก็นำบูชาพระ

บทพระคาถาป้องกันการกระทำจากอำนาจคุณไสยทั้งปวง ป้องกันทั้งคุณผี คุณคนและ ไสยศาสตร์ ถอนคุณไสย์

คุณไสยมนต์ดำ 
     พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ความหมายว่า คุณไสย คือ . อาถรรพณ์ คือ พิธีทำร้ายต่ออมิตร ผู้ที่เป็นศัตรู โดยเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เข้าในตัวหรือฝังรูปฝังรอย เรียกกันว่า กระทำคุณไสย, ผู้ถูกกระทำ เรียกว่า ถูกคุณไสย.
     คำว่า มนต์ คือ ถ้อยคําศักดิ์สิทธิ์ ที่บริกรรมเพื่อให้สําเร็จความประสงค์ เช่น โบราณใช้เวทมนตร์ในการรักษาโรคบางอย่างบางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ คาถา เป็น เวทมนตร์คาถา.
     ส่วนคำว่า ดำ คือ เป็นการแบ่งสาย ของการใช้คุณไสยไปในทิศทางต่างๆ ซึ่งพูดรวมๆ แล้วก็แบ่งออกเป็น ๒ ก็คือ สายขาว และสายดำ
๑. สายขาว หมายถึง การใช้ไปในทางที่ดี เช่น ช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำ ป้องกันการกระทำจากผู้อื่น เป็นต้น
๒. สายดำ หมายถึง การใช้คุณไสยไปในทางที่ไม่ดี เช่น ทำร้ายผู้อื่น ให้ได้รับความลำบาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจไปต่างๆ นาๆ หรืออาจทำให้เสียสติ และเสียชีวิตได้

คาถาถอนคุณไสย์

ตั้งนะโม บูชาคุณศรีพระรัตนตรัย 3 จบ

สมุหะเนยยะ สมุหะคะติ สมุหะคะตา พัทธะเสมายัง เอวัง เอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาถอน ยะหลุด ลอยเลื่อน เคลื่อนด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ พุทธัง ปัจจกขามิ ธัมมัง ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิ เอกาเสติ ปะสิทธิ เม เอหิ คัจฉะมุมหิ เปหิ เปหิ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ

 

บทพระคาถาป้องกันการกระทำจากอำนาจคุณไสยทั้งปวง

บทสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

อิติปิโส วิเสเสอิ

อิเสเส พุทธะนาเมอิ

อิเมนา พุทธะตังโสอิ

อิโสตัง พุทธะปิติอิ

คาถาบารมี 30 ทัศ พระพุทธเจ้า

อิติ ปาระมิตาติงสา อิติ สัพพัญญุมาคะตา

อิติ โพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะ เต นะโม

พระคาถาอิติปิโสแปดทิศ

อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา

ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง

ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท

โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ

ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ

คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ

วา โธ โน อะ มะ มะ วา

อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ

พระคาถาอิติปิโสรัตนะมาลาถอดรูป

อิ สัม คะ สะ สา คะ โก จัต ติ

ติ พุท โต ธัม มัง วะ เอ ตัง ปัญ

ปิ โธ โล มะ พุธ ตา หิ เว โน

โส วิช กะ สา โธ ธัม ปัต ถิ ภะ

ภะ ชา วิ ระ ภะ โม สิ ตัพ คะ

คะ จะ ทู ถิ คะ สัน โก โพ วะ

วา ระ อะ สัต วา ทิฎ โอ วิญ โต

อะ ณะ นุต ถา ติ ฐิ ปะ ญู สา

ระ สัม ตะ เท สวาก โก นะ หี วะ

หัง ปัน โร วะ ขา อะ ยิ ติ กะ

สัม โน ปุ มะ โต กา โก สุ สัง

มา สุ ริ นุส ภะ ลิ ปัต ปะ โฆ

พระคาถาป้องกันคุณไสย ป้องกันตัวกันกระทำย่ำยีต่างๆ

พุทธังกันตัง ธัมมังกันไป สังฆังกันอยู่ ปิตตะระ ปิตตะรัง กันสัง กันเว กันอุดกันปิดกันนะ กันใน กันคุณ กันไสย์ กันเสน่ห์เล่ห์ลม กันผีทั้งกลม กันลมพระพาย กันคนฉิบหาย คนตายไม่ดีกูจะกันฝูงผี มายีมายา กันคุณกันยา อักขระอักษรสามสิบสองตัว อะระหัง สวัสดีมีชัย สิทธิสวาหะ

ใช้ภาวนากันตัวเองหรือเสกข้าวกินเสกน้ำกินป้องกัน หรือภาวนาก่อนนอนเวลาต้องไปพักตามสถานที่ต่างๆ ป้องกันการรบกวนของวิญญาณร้าย หรือเสนียดจัญไร ป้องกันภูติผีปีศาจและการกระทำทุกชนิด ที่ใช้อำนาจอวิชาและวิญญาณร้ายมาทำร้ายเรา บ่ มิได้เลย ป้องกันทั้งคุณผี คุณคนและ ไสยศาสตร์

คุณไสยมนต์ดำ
คุณไสยมนต์ดำ

312667150_6300829586610526_2825712902667014228_n

คาถาทำน้ำมนต์แก้สติฟั่นเฟือน ของหลวงพ่อกวย

พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระเจ้าในวิหาร หลวงพ่อกวย ปี 2500-ปี 2515 เนื้อผง วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท หายาก ทันแท้ ดูง่าย สวยเดิมครับ
พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระเจ้าในวิหาร หลวงพ่อกวย ปี 2500-ปี 2515 เนื้อผง วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท หายาก ทันแท้ ดูง่าย สวยเดิมครับ
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ
อิมัสมิงกาเย ปฐวีธาตุ อะนิจจัง อะนัตตา สัญญาปรินามะนัง นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ
อิมัสมิงกาเย เตโชธาตุ อะนิจจัง อะนัตตา นะโมพุทธายะ
อิมัสมึงกาเย วาโยธาตุ อะนิจจัง อะนัตตา นะโมพุทธายะ ยะทาพุทโธนะ
ควรปลุกเสกพระคาถาทำน้ำมนต์แก้สติฟั่นเฟือน (พระคาถาทำน้ำมนต์แก้อาการบ้า) ให้ได้ ๑๐๘ จบ และ ในวันต่อมา เมื่อมีเวลาว่าง ก็ควรปลุกเสกอีก ให้ครบ 7 วัน ปลุกเสกพระคาถาทำน้ำมนต์แก้สติฟั่นเฟือน (พระคาถาทำน้ำมนต์แก้อาการบ้า) บ่อย ๆ ด้วยจิตเป็นสมาธิแน่วแน่ เมื่อน้ำหมดก็เติมใหม่ได้ ไม่ช้าไม่นาน อาการบ้า สติฟั่นเฟือน จะค่อย ๆ หายไปแล

บูชาพระราหู คำบูชาพระราหู อสุรินทราราหู เทวาธิราชเจ้า

บุคคลใด บูชาพระราหู
จะเป็นผู้ ขจรเดช เขตไพศาล
เจริญทรัพย์ ยศอำนาจ และบริวาร
มวลหมู่มาร มิอาจหาญ พาลผจญ
จะรุ่งเรือง ก้าวไกล ในหน้าที่
คุณความดี ก่อเกิด กำเนิดผล
สิ่งที่หมาย สมดังคิด ดั่งจิตดล
รอดผ่านพ้น ทุกข์ภัย ในทุกครา

#คำบูชาพระราหู อสุรินทราราหู เทวาธิราชเจ้า

ตั้ง นะโมฯ (3 จบ)
บทสวดบูชาพระราหู
“กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิสังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติกินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติสัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ”
บทสวดคาถาสุริยะบัพพา
“กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ”
บทสวดคาถาจันทบัพพา
“ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ”
#ความศักดิ์สิทธิ์ของกะลาตาเดียว
#กะลาตาเดียว หรือ #กะลามะพร้าวตาเดียว ถือกันว่าเป็นวัตถุอาถรรพ์ ที่มีฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แม้ว่าไม่ต้องปลุกเสกก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ คนแต่ก่อนได้กล่าวกันว่า กะลาตาเดียว มีคุณวิเศษหลายอย่าง
1. ใช้สำหรับตักข้าวสารใส่หม้อ เวลาหุงข้าวกิน หากว่านำติดตัวไปประกอบอาชีพ ธุรกิจ จะทำให้เกิด ทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ หากเป็นชาวไร่ ชาวนา พืชในไร่งอกงามดี หากเป็นข้าราชการก็จะเจริญทาง ยศถาบรรดาศักดิ์ ได้เป็นหัวหน้า เป็นนายคน เป็นใหญ่เป็นโตเร็วกว่าคนอื่นๆ
2. ใช้เป็นเครื่องรางของขลัง ติดประจำกายไว้กับตัว เพราะกะลาตาเดียวเป็นอาถรรพ์มีดีอยู่ในตัวแล้ว หากว่ามีการนำไปปลุกเสกลงคาถาอาคมก็จะยิ่งมีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
3. ใช้สำหรับเป็นสิ่งป้องกันเสนียดจัญไรป้องกันคุณไสย และภูตผีปีศาจได้ ใช้แก้ผีเข้า ของมีคมเข้าตัว ใช้ล้างอาถรรพ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ปลูกบ้านทับของมีอาคมร้าย ซากศพ บ่อน้ำ บ้านตั้งอยู่กลางสามแพร่ง และอื่นๆ ที่ส่งผลร้ายให้แก่ผู้อาศัย ให้กลับกลายเป็นดีได้
4. ใช้ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ได้ เช่น ทำให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะมาถึงตัว
5. ใช้ทำเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ติดตัวเป็นประจำ จะทำให้สุขภาพแข็งแรงดี โรคภัยไข้เจ็บ จะไม่ค่อยมาเบียดเบียน ที่เจ็บป่วยอยู่ก็จะทำให้สุขภาพดีขึ้น
6. บูชาอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดโชคลาภสม่ำเสมอ ทรัพย์สินเงินทองจะหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย
7. พกพาไปค้าขายก็จะค้าขายดี นำติดตัวไปซื้อของก็จะได้ของมามาก ทั้งที่มีเงินนิดเดียว ถ้าขายของ ก็จะได้เงินเข้ามามาก แต่ของที่ขายไปดูยังไม่ยุบไปเท่าไหร่
8. คนสมัยโบราณ ใช้เป็นเครื่องมือแพทย์โบราณ ใช้ในการตัดต้อที่ตาของคน ให้หายขาดได้ ***
9. ใช้เป็นยารักษาโรคอัมพาต โดยนำทั้งลูกมาผ่า แบ่งเป็นสี่ส่วน ให้นำชิ้นนึงไปทางทิศตะวันตก อีกสามชิ้นส่วนมาต้มน้ำ กินน้ำทุกวัน วันละ 3 มื้อ มื้อละ 1 แก้ว ถ้าหมดก็นำมาแบ่งเช่นเดิม แล้วต้มกินอีก ไม่นานก็จะหายจากอัมพาต ***
#คาถากะลาตาเดียว
.. เอกะ จักขุ นาฬิเกลา สุริยประภา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะ รัตนะ สัมปันโน มณีโชติ ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหัง วันทามิ เม สะทา ฯ
(เป็นคาถากะลาตาเดียว มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม เป็นมหาอุดดีนัก ช่วยสะเดาะเคราะห์ดีนักแล ฯ)
#วิธีปฏิบัติ
– ทุกพลบค่ำ ให้ถวายน้ำชา หรือ กาแฟดำ จุดธูป 8 ดอก
– ท่อง นะโม 3 จบ และตามด้วยคาถา 1 จบ
– ในวันที่มี สุริยุปราคา หรือ จันทรุปราคา ในช่วงที่เกิดให้ บูชา ของดำ 8 อย่าง และท่องคาถา
#อานุภาพของกะลาตาเดียว คือ
1. เป็นของที่ใช้หาทรัพย์ ได้คล่องตัวมากขึ้นยิ่งขึ้นไป
2. ไม่มีคำว่าอดอยาก หรือ ขาดแคลน
3. เป็นเมตตา มหานิยมของคนทั่วไป
4. คงกะพันชาตรี เป็นมหาอุตต์
5. ป้องกัน คุณไสยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
6. ประกอบอาชีพต่างๆ หรือรับราชการมีผลดี
7. ใช้รักษาโรค
8. เป็นโชคลาภ
9. รับเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ตามความรู้สึก.
ทักษามหาพยากรณ์นั้นได้กล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลใดก็ตาม ถูกพระราหูเสวยอายุหรือพระราหูแทรก ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคราะห์ต่างๆ
ทักษามหาพยากรณ์นั้นได้กล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลใดก็ตาม ถูกพระราหูเสวยอายุหรือพระราหูแทรก ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคราะห์ต่างๆ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
นอมอ นอมอ นอมอ จะจะ สะสะ นะนะ นะโมพุทธายะ
นอมอ นอมอ นอมอ จะจะ สะสะ นะนะ นะโมพุทธายะ
นอมอ นอมอ นอมอ จะจะ สะสะ นะนะ นะโมพุทธายะ
ความหมายของพระคาถา
นอมอ : อำนาจ บารมี
จะจะ : เปิดโลก
สะสะ : เปิดดิน เปิดบาดาล
นะนะ : เปิดทิศ เปิดทาง
นะโมพุทธายะ :ครอบโลก ครอบตัวเอง

โองการงานไหว้ครู

พิธีไหว้ครู – #

ไหว้ครูโหราศาตร์สิบลัคนา
ไหว้ครูโหราศาตร์สิบลัคนา
โองการงานไหว้ครู
๐ สมันตา จักกะวาเรสุ อันตะราคัจฉันตุเทวะตา สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณันตุ สัคคะโมกขะทัง ฯ ๐ ผริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิขิตตะจิตตา ปริตตัง ภะณันตุ ฯ
๐ สัคคเคกาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิเขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระ วะจะนัง สาทะโวเม สุณันตุ ธัมมัสะสวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ ( ๓ ครั้ง )
๐ สาธุ อุกาสะ ข้าพเจ้าจะขอน้อมเกล้านมัสการประณมขึ้นเหนือเศียรสิโรตม์ ด้วยเทพยดาเจ้าจงเปรมปรีปราโมทย์มโนสาร จำนงค์แห่งองค์บรมกษัตริย์ขัตติยวงศ์อันเรืองเดช อีกทั้งท้าวไทยเทเวศทั่วทุกทิศา ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญเทพยดาเจ้า จงมาสู่สโมสรประชุมช่วยอำนวยชัย ที่ข้าพเจ้าจะได้ทำการเคารพนบไหว้บูชาครู ขออัญเชิญท่านจงมาสู่ยังมณฑลพิธี ฯ
๐ ขออัญเชิญเทวัญทุกชั้นฟ้า จงลงมาชูช่วยอำนวยผล ขออัญเชิญเทพทั้งหลายในสากล จงมาดลชูช่วยอำนวยชัย ขออัญเชิญองค์อินทรปิ่นดาวดึงสา จอมเทวาทุกสถานวิมานใหญ่ จงเสด็จจากฟากฟ้ามาไวๆ เพื่อจะได้รู้เห็นเป็นพยาน ขออัญเชิญพระพรหมผู้มีฤทธิ์ ประกาศิตพรชัยในสยาม เปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณาธรรม ทั้งโลกสามต่างสยบนบประณม ขออัญเชิญเทวาทุกชั้นฟ้า จงลงมาเป็นเกณฑ์เป็นปฐม ครั้นว่าได้ฤกษ์ดีที่อุดม เป็นปฐมมงคลฤกษ์ให้เบิกชัย ฯ
๐ สาธุ สัคเค อยู่ในช่องฉกามาพจรสวรรค์ กาเม อยู่ในรูปภพอันจังหวัดวงศ์ คิริสิ ขะระตะเฏ อยู่ในห้วงมหรรณพสิงขรเขตต์และขุนเขา จันตะลิกเข เทพยดาเจ้าอยู่เนืองแน่นในอากาศ วิมาเน อยู่ในวิมานมาศรัตนมณเฑียรทอง ทีเปรัฏเฐ เทพยดาเจ้าที่อาศัยอยู่ในราชรถแก้วและเรือนหลวง จะ คาเม เทพยดาเจ้าทั้งปวงที่อยู่ในบ้านน้อยและเรือนใหญ่ ตะรุวะนะคะหะเน เทพยดาเจ้าที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้พฤกษาสานต์ เคหะวัตถุ มหิ เขตเต เทพยดาเจ้าที่อาศัยตามบ้านเรือนไร่และโรงนา ภุมมา เทพยดาเจ้าที่อาศัยอยู่บนพื้นภูมิภาค จายันตุ เทวา เทพยดาเจ้าทั้งหลาย วันนี้ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญท่าน ให้เสด็จลงมาสโมสรประชุมช่วย ชะละถะละวิสะเม เทพยดาเจ้าที่อยู่ในห้องเหวผา ฝั่งน้ำและบนบกก็มิได้เสมอกัน ยักขะคันธัพพนาคา ใช่แต่เท่านั้น อีกคนธรรพ์และนาคราช ยักษาผู้เป็นใหญ่ ติฏฐัน ตา สันติเกยัง เทพยดาเจ้าที่มีความสุขทุกตำบล มุนิวะระ วะจะนัง อีกทั้งฤาษีมุรีนาถทุกแห่งหน ท่านที่ศักดิ์ฤทธิรนด้วยตบะเดชา สาธะโว ดูก่อนเทพยดาเจ้าทั้งปวง เม จงเกษมศานต์ตามลำดับ สุณันตุ จงเงี่ยโสตสดับอรรถอันล้ำเลิศ ธัมมัสสะวะนะกาโล ซึ่งธรรมะของพระพุทธเจ้า นี่แหละประเสริฐในโลกี อะยัมภะทันตา
วันนี้ ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญท่าน ให้ลงมาช่วย อำนวยพระพรชัย ให้แก่บรรดาข้าพเจ้าทั้งหลาย ทั้งหญิงทั้งชายที่ได้ประณมมือนั่งอยู่ในพิธี พระองค์จงมาประจำราศี ให้มีแต่ความเจริญยิ่งวัฒนา ด้วยใจเป็นศรัทธา สร้างบารมีปอย่าได้ฝืดเคืองข้องขัด ทรัพย์สมบัติจงมากมี อันตรายอย่าย่ำยี โรคภัยไม่มีมาบีทา จงสมความมุ่งมาตรปรารถนา ให้สูงยิ่งด้วยปัญญา ทำสิ่งใดนั้นหนาจงได้ผล ครั้นปฏิบัติท่องบ่นในตำรา เวทย์มนต์คาถาให้ศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วยบุญฤทธิ์ ทุกประการ เทอญ ฯ
(ปี่พาทย์บรรเลงเพลงสาธุการ)
๐ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ
๐ นะโม สิบนิ้วของข้าพเจ้า จะยอยกขึ้นหว่างคิ้วชุลีไหว้ พระศรีรัตนตรัยโมลีโลก อุบัติอยู่ในโอฆะทั้งสามภพ ไม่เทียมเทียบเปรียบปรารภ ครบถึงสอง ตัสสะ ภะคะวะโต แห่งพระองค์ทรงเครื่องสิกขาเพศ ข้าพเจ้าขอยอกรขึ้นเหนือเกศ ต่างประทุมเมศประทุมทอง เนตรของข้าพเจ้าทั้งสองต่างประทีปแก้ว อะระหะโต แห่งพระองค์ทรงหักเสียแล้วซึ่งกิเลส สัมมาสัมพุทธัสสะ ท่าน ตรัสรู้เนยยะธรรมด้วยพระองค์เอง ทรงพระปัญญาเล็งสัพพัญญู ซึ่งเป็นบรมครูผู้หลักโลก หวังจะพาสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามจัตตุโลกโอฆะสงสารมาประหารหัก ซึ่งสารประจักษ์อันประกอบไปด้วยกำและกง ไม่ยอมให้สัตว์นั้นเวียนวงอยู่ในภพทั้งสาม จึงได้พระนามว่า อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ดับซึ่งโทโส โมโหหาย โลภะละลายในทางบาป ทรง อิสระภาพเรืองพระเดช ทรงสิกขาเภทเป็นชิโนรส ย่อมจะเปลืองปลดตัดกิเลส พระองค์เล็งเห็นเหตุแล้วจึงหลบหนี ( ขอประทานเสริมสร้างบารมีปกเกล้าเกศีแก่ข้าพเจ้านี้ เถิด ) ฯ
๐ โย พุทโธ อันว่าพระสรรเพชรทุกพระองค์ ผู้ทรงพระนามสี่ประการ นามคุณเบื้องต้นเป็นประธาน คือพระอะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระองค์ทรงสถิต ยังรัตนบัลลังก์อันวิจิตร ก็บังเกิดด้วยบุญฤทธิ์บารมี วาระโพธิมูเล ใต้ควงไม้พระศรีมหาโพธิ์พฤกษมงคล มาระสะเสนัง ยังพญามารกับพวกพล ให้พินาศหลีกหนี สำรวมอินทรีย์ของพระองค์ ตังปะมะมามิพุทธัง ข้าพเจ้าจะน้อมเศียรศิริโรตม์ ไหว้ไปพร้อมทั้งหมดด้วยกายวาจามโนสุจริต
๐ โย ธัมโม อันว่าพระนวโลกุตตระเจ้าเก้าประการ สิบทั้งปริยัติ เป็นปริโยสารอย่างยิ่ง นิยากัสสะ ธรรมนี้แหละจะนำชายหญิงให้มีสุข ดับสังขารทุกข์ให้สิ้นโศก เข้าสู่ศิวะโมกข์นิพพานเมือง
๐ โย สังโฆ ข้าพเจ้าจะขอน้อมกายถวายบูชา พร้อมไปด้วยสัจจาอันถือมั่น แห่งพระสงฆ์ผุ้ทรงพรหมจรรย์จารีตธรรม จงมาช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูกิจ ซึ่งองค์เทพได้ลงสู้ร่างสิงสถิต เกื้อหนุนจุนเจือช่วยเหลือมนุษย์ ด้วยใจปราศจากราคี มีแต่ความบริสุทธิผ่องแผ้ว ประดุงดังประทีปแก้วส่องนำทาง สิ่งใดที่เห้นว่าขัดขวาง ก็ได้อุตส่าห์ถากถางอย่างน่านิยม ให้พร้อมสมบูรณ์พูนอุดม ประหนึ่งร่มโพธิแก้วร่มโพธิทองที่สอดส่องเสริมสร้าง ด้วยเล็งเห็นความสว่าง ตามทางธรรมธีรคุณ จึงยึดเหนี่ยวพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เป็นบันไดเดิน จึงตั้งใจมิให้เหินห่างหาย โดยน้ำจิตผ่องใสศรัทธากล้า หวังจะช่วยเหล่าชาวประชา ด้วยความศรัทธาบารมีในครั้งนี้เถิด ฯ
( ลั่นฆ้องสามทีโห่ด้วยช่วยอวยชัย ปี่พาทย์บรรเลงเพลงครอบจักรวาล )
๐ ศรี ศรี สิบนิ้วของข้าพเจ้าจะขอน้อมเกล้านมัสการ คุณแก้วสามหระการเป็นยอดยิ่ง อันเป็นมหามงคลมิ่งทั่งภิภพ สิ้นทั้งมหรรณพทุกขอบเขตแผ่อำนาจ ข้าพเจ้าขอคารวะครูครูผู้รู้ไสยศาสตร์ จึงได้ร้องประกาศตามหลักการ คุณครูที่ได้ฝึกหัดมาจนเชี่ยวชาญ ทั้งครูอาจารย์ที่ได้ไหว้วานไถ่ถาม ทั้งครูแนะครูนำ ครูพักลักจำ ครูกระทำพิธี อันเป็นปิ่นมหาอิสราธิบดีดิลก จงมาชูช่วยอุปถัมภกแก่ข้าพเจ้า อีกทั้งปิตุเรศเกศเกล้าและชนนี อีกทั้งเทพยดาทุกราศีพร้อมสะพรั่ง จงมาสถิตยับยั้งคอยรักษา ช่วยอนุโมทนาอุปัฏฐาก ตามหลักพระประสงค์ที่แจ้งเหตุ ขอเดชะพระโลกเชตุโลกุตระ จงมาประสิทธิประสาทพรในวันนี้ ฯ
๐ ตามตำหรับเรียนรู้ไหว้ครูก่อน ขอยอกรประณมก้มเกศาต่างดอกไม้ธูปเทียนที่เรียนมา ขอบูชาโดยกำหนดครูบทกลอนทั้งครูร้องครูแหล่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ทั่วทุกทิศได้เมตตามาสั่งสอนอักขระวรรณยุกต์ครบทุกตอน ตามบทกลอนดีๆ ที่เรียนมาครูพิราพพิรอดยอดตำรับ ทั้งคำร้องกลอนขับเพราะนักหนาท่านได้สร้างภาพพจน์บทเสภา ขอบูชาพระมุนีร้อยแปดองค์ทั้งทางร้องทางแหล่ให้คล่องตัว ทำพิธีโดยทั่วอย่าลุ่มหลง
ให้จำแม่นสำคัญเป็นมั่นคง ขอท่านจงรับพานที่บูชา ฯ
คารพครู
๐ หยิบพานขึ้นบูชา ขึ้นเหนือเศียร ดอกไม้ธูปเทียน ไหว้คุณครูที่บูชา๐ไหว้พระพุทธไหว้พระธรรม ท่านกล่าวขาน ไหว้ครูบา ไหว้พระ สงฆ์ ไหว้องค์อินทร์
๐ไหว้ทั้งปวงเทวฤทธิ์ สถิตยังถิ่น ไหว้พระอินทร์ ไหว้พระพรหม ไหว้ บรมครู๐ไหว้พระพุทธเจ้าหลวง ทรงห่วงอยู่ ไหว้พ่อครูพราหมณ์ศิวรยา ดั่งขานไข
๐ ไหว้บิดามารดา เลี้ยงมาจนใหญ่ ท่านปลูกฝังดวงใจ ใฝ่ถวิล
๐ ไหว้ครูในคอ มาต่อปลายลิ้น ไหว้ครูในคอ มาต่อกบิล หญิงชายได้ยิน สวัสดีเคารพครู (อีกแบบหนึ่ง )๐ ประณมหัตถ์นมัสการ ขึ้นเหนือเศียร ต่างธูปเทียนไหว้คุณครู ขึ้นบูชา
๐ จะขอเคารพคุณ บิดรมารดา ที่ได้เลี้ยงดู ลูกมา จนโตใหญ่
๐ จะขอเคารพคุณ พระรัตนตรัย ที่ได้คุ้มครอง ประเทศไทย ให้ร่มเย็น
๐ จะขอเคารพคุณ ครูบาอาจารย์ ที่ได้อบรม ลูกศิษย์มา จนเชี่ยวชาญ
( ปี่พาทย์บรรเลงเพลง รัว ต่อด้วยเพลง วา เพื่อเข้าสู่การอัญเชิญเทพ )
อัญเชิญเทพ
๐ โภนโต เทวะสังขาโย สะหัสสะ เทวะสังฆาจะ สัพเพอินทรา ปะมะนามะยัง สันติเทวา รักขันตุ สัพะพทา ฯ๐ ณ บัดนี้ ข้าพเจ้า จะขอน้อมเกล้าประดิษฐาน อัญชุลีประณมน้อย ขึ้นเหนือเศียรศิโรตม์ เทพยดาเจ้าจงเปรมปรีปราโมทย์ มโนสารจำนงแห่งองค์พระมหากษัตริย์ขัตติยวรวงศ์อันเรืองเดช อีกทั้งท่านท้าวไทยเทเวศทั่วทุกทิศา
๐ อนึ่ง ข้าพเจ้า ขออาราธนา คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า อีกทั้งคุณพระบิดามารดา คุณพระอุปัชฌาย์อาจารย์ คุณพระฤาษีดาบสอีกทั้งนักพรตและนักสิทธิวิทยาธร อีกทั้งเทพเท วาผู้เป็นเจ้าฟ้า เธอจึงเสด็จมาประสิทธิพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญพระมหาเทพเทวาทั้งหลายทั่วพื้นปฐพีดล พระฤาษีทั้งร้อยแปดตนท่านมาดลบันดาล ด้วยสรรพสิทธิวิทยา พระครูพาครูเฒ่า ครูพักลักจำและอักษร สถาพรกรรมสิทธิ์ ให้แก่ข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้เถิด ฯ
๐ อิติปิโส ภะคะวา ข้าพเจ้าขออัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาอยู่เหนือเกล้าเหนือผม ขออัญเชิญพระพรหมเสด็จมาอยู่บ่าเบื้องซ้าย ขออัญเชิญพระนารายณ์เสด็จมาอยู่บ่าเบื้องขวา ขออัญเชิญพระคงคาเสด็จมาเป็นน้ำลาย ขออัญเชิญพระพายเสด็จมาเป็นลมปาก ขออัญเชิญพญานาคเสด็จมาเป็นสร้อยสังวาลย์ ขออัญเชิญพระกาฬเสด็จมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้ากระทำการสิ่งใดเมื่อใด ภูติใดพรายใด อย่าได้มาเบียดเบียนบีทา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขออัญเชิญคุณครูแต่หนหลัง ขออัญเชิยคุณพระฤาษีทั้งร้อยแปดพระองค์ เดชะคุณครูบาธิบายอันเลิศล้ำ คุณครูอยู่ในถ้ำ ขอท่านจงมาช่วยอวยชัยให้แก่ข้าพเจ้า ฯ
๐ พุทธังปสิทธิมหาปสิทธิ ธัมมังปสิทธิมหาปสิทธิ สังฆังปสิทธิมหาปสิทธิ อิทธิฤทธิ อิทธิฤทธัง อิติปสิทธิ ภะวันตุ เม ภะวันตุ เต ฯ
( ปี่พาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ )
๐ ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญพระวิษณุกรรมก่อน ขอยอกรประณมก้มเกศา เพราะว่าท่านเป็นผู้รู้การโยธา ขอเชิญท่านเสด็จมาช่วยสร้างโรงพิธี ยาวรีสามสิบหกห้อง ซึ่งจะได้เป็นที่รับรองปวงเทพเทวา ซึ่งจะได้อัญเชิญมา ณ กาลวันนี้ ฯ
( ทำเพลงตระนิมิต )
๐ สาธุ สาธุ ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญผู้ที่เจริญด้วยบารมี สถิตยังที่สถานพิมานแมนแดนสวรรค์ ตั้งแต่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทั่วถึงทั้งสิบหกห้องชั้นฟ้า ขออัญเชิญให้ท่านจงเสด็จลงมา เพื่อจะได้เป็นสักขีพยานในการพิธี ทุกชั้นฟ้าทุกราศี ณ กาลบัดนี้ ขออัญเชิญเสด็จลงมาตามลำดับเชิญประทับ ณ มณฑลพิธี ฯ
( ทำเพลงตระอัญเชิญ )
๐ ข้าพเจ้าขออัญเชิญทวยเทพทั้งหลายให้แจ้งประจักษ์ตามหลักการ อันพระสยมบรมพรหมญาณ พระอิศวร พระนารายณ์ ท้าวสักกะเทวราช พรหมาธิราชเจ้า ท่านท้าวมาตุลี ท้าวมาลีวราชสหัสนัยไตรตรึง อัญเชิญถึงท่านท้าวมหาพรหม ท้าวกบิลพรหม และพระพรหมที่เหมาะสมกับงานพิธี นอกจากนี้ยังมีเหล่าอัมรินทร์อินทรา สมเด็จพระแม่อุมาเทวี พระนางลักษมี พระนางสุรัสวดี พระพิฆเนศ พระขันธกุมาร พระโพธิสัตว์ผู้สำเร็จญาณอวโลกิเตศวรกวนอิม และเหล่าเทพอรชุนผู้ประกอบด้วยบุญฤทธิ์ พระอาทิตย์ พระจันทร์ เชิญมาด้วย เหล้าเทพเทวาจงมาช่วยกันในวันนี้ ฯ
( ทำเพลงเหาะ )๐ นอกจากนี้ยังมีเทพนารีทั้งหลาย มิต้องอรรถาธิบายระบุนาม ข้าพเจ้าเฝ้าพยายามจะอัญเชิญท่านทุกพระองค์ จงเสด็จลงมาทั่วหน้ากันในวันนี้ ฯ
( ทำเพลงชุบ )
๐ ๐ ลำดับต่อจากนี้ ยังมีพระฤาษีชีไพรที่ได้บำเพ็ญพรตอยู่ตามเทือกเขาและถ้ำไม่กำหนด ตั้งแต่ พระฤาษีนารอด พระฤาษีนารายณ์ พระฤาษีตาไฟ พระฤาษีตาวัว พระฤาษีปลัยโกฏิ พระฤาษีพิราพ พระฤาษีบรมโกฏิ พระฤาษีปัญญาสด พระฤาษีสมมิตร พระฤาษีกัสสปะ พระฤาษีไตรภพ พระฤาษีทัศมงคล พระฤาษีโคดม พระฤาษีโคบุตร พระฤาษีโพธิสัตว์ พระฤาษีเพชรฉลูกัญ พระฤาษีชนก พระพรตมุนี พระฤาษีพรหมเมศ พระฤาษีพระหมนาเรศ จตุทิพยเนตร เกศโกมุด สัตบุศ สัตบง ทั่วกระทั่ง พระฤาษีพิราพพิรอด ยอดตำรับ และไกรสร ขออัญเชิญทั้งร้อยแปดพระองค์ที่ทรงศีลสังวรทั้งหมด ที่ทรงพรตพรหมจรรย์ อาศัยอยู่ทุกสถาน ป่าหิมพานต์ เขาไกรลาส สัตบงกศ ขอเชิญท่านทั้งหมด จงเสด็จมาประสิทธิประสาทพร ให้……………และพวกข้าพเจ้าจงถาวรวัฒนา ณ บัดนี้ ฯ
( ทำเพลงเสมอเถร )
คาถาบูชาพ่อแก่
นะโม ตัสสะ พะคะวะโต อะระหะโต
สัมมา สัมพุท ตัสสะ (3 จบ)
อุกาสะ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ สิทธิการิยะ
อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม ทุติยัมปิ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา อาจาริยัง สัพพะสัยยัง
วินาสสันติ สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม ตะติยัมปิ อิมัง อัคคีพาหูบุพผัง อะหังวันทา
อาจาริยัง สัพพะสัยยัง วินาสสันติ สิทธิการิยะ อะปะระปะชา อิมัสมิง ภะวันตุเม
คาถาบูชาพระฤาษี
โอม…อิมัสมิง พระประโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปะริภุญชันตุ ทุติยัมปิ…อิมัสมิง พระประโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปะริภุญชันตุ ตะติยัมปิ…อิมัสมิง พระประโคนธัพ พระมุนีเทวา หิตาตุมเห ปะริภุญชันตุ
คาถาบูชาพระฤาษี 108 (รวม)
โอม สรเวโภย ฤ ษิโภย นะมัห
บทอธิฐานขอพรพระฤาษี
(ใช้ได้กับทุกๆ พระองค์)
โอม ตวะเมวะมาตา จะบิตา ตวะเมวะ ตวะเมวะพันธุศจะ สะขา ตวะเมวะ ตวะเมวะวิทะยา ทรวิณัม ตวะเมวะ ตวะเมวะสรวัม มะมะ เทวะ เทวะ
คาถาบูชาพระบรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจ
โอม นะโม ชีวะโก สิระสา อะหัง การุณิโก สัพพะ สัตตานัง โอสะถะ ทิพพะมันตัง ปะภาโส สุริยา จันทัง
โกมาระภัจโจ ปะกาเสสิ บัณฑิตโต สุเมธะโส อะโรคะยา สะมะนา โหมิ
ขออนุญาตเผยแพร่เป็นธรรมะทานครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุธรรมครับ
( บารมีธรรมพ่อแก่ บุญรักษา เจริญในธรรมครับ )

ดาวนักขัตฤกษ์ หรือ ดาวนักษัตรฤกษ์ เรียกย่อว่าดาวฤกษ์ ในทางโหราศาสตร์ไทยและภารตะ หมายถึงกลุ่มดาวที่มีตำแหน่งคงตัว 27 กลุ่มที่เรียงตัวกันบนฟากฟ้า ในวิชาโหราศาสตร์ เมื่อจะให้ฤกษ์หรือพยากรณ์ชีวิตบุคคล ก็จะต้องดูว่าดวงจันทร์ ในขณะที่เกิดหรือทำการนั้น ทับดาวนักขัตฤกษ์ที่ดีหรือไม่ นอกจากนี้อาจดูให้ละเอียดลงไปถึงลัคนาด้วยว่าอยู่ในกลุ่มดาวใด ดาวฤกษ์ต่างจากดาวเคราะห์ตรงที่ดาวเคราะห์สามารถเคลื่อนที่ไปในจักรราศีได้ และสามารถบันดาลชะตาต่อบุคคลหรือสถานที่ได้ ซึ่งในทางโหราศาสตร์จัดว่าดวงอาทิตย์เป็นดาวเคราะห์ด้วย

อาจารย์กฤตพล นำโหราศาสตร์เสิบลัคนา ข้ารับรางวัล “นาคเณศ” ประจำปี 2566 สภาสื่อมวลชนไทย (องค์กรเครือข่ายสื่อภาคประชาชน) โดย ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธาน ถือฤกษ์ดีจัดงานประกาศรางวัลเกียรติคุณ “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖ มหาเทพพิฆเนศวร ปางนาคปรก (โบราณ) ๗ เศียร พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพเจ้าแห่งความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖ โดยได้รับพิจารณาข้อมูลข่าวสารการยอมรับและเผยแพร่จากสมาชิกและสื่อมวลชน ประชาชนส่วนรวมและสังคม องค์กร สมาคม มูลนิธิ ชมรม เครือข่ายมวลชนในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้พิจารณาเสนอชื่อ ประวัติ ผ ลงาน สรรหา คัดเลือกบุคคลและองค์กร หน่วยงานข้าราชการ และนักธุรกิจรวมถึงผู้ประกอบกิจสื่อสารมวลชนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งบุคคลวงการสื่อสารมวลชน เพื่อเข้ารับรางวัลเกียรติคุณในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ยกย่อง ชมเชย เชิดชู สรรเสริญและให้กำลังใจให้เป็นบุคคลซึ่งสามารถดำรงตนประกอบหน้าที่ การงาน จนประสบความสำเร็จหรือมีผลงานและปฏิบัติตนอันเป็นประโยชน์ที่ดีจนเป็นที่ยอมรับของสังคมและต่อวัฒนธรรมอันดีงามมีผลงานก่อประโยชน์สร้างสรรค์สังคมที่ดี โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมเจ้าทิฆัมพร ยุคล เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีมอบรางวัล และมีผู้เข้ารับรางวัลต่างๆ ดังนี้ อาจารย์ กฤตพล แสงซื่อ รางวัล บุคคลต้นแบบ ผู้สร้างแรงบันดาลใจการดำเนินชีวิต  สาขาโหราศาสตร์ทับลัคนา www.10luc.com
อาจารย์กฤตพล นำโหราศาสตร์เสิบลัคนา ข้ารับรางวัล “นาคเณศ” ประจำปี 2566 สภาสื่อมวลชนไทย (องค์กรเครือข่ายสื่อภาคประชาชน) โดย ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธาน ถือฤกษ์ดีจัดงานประกาศรางวัลเกียรติคุณ “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖ มหาเทพพิฆเนศวร ปางนาคปรก (โบราณ) ๗ เศียร พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพเจ้าแห่งความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖
โดยได้รับพิจารณาข้อมูลข่าวสารการยอมรับและเผยแพร่จากสมาชิกและสื่อมวลชน ประชาชนส่วนรวมและสังคม องค์กร สมาคม มูลนิธิ ชมรม เครือข่ายมวลชนในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้พิจารณาเสนอชื่อ ประวัติ ผ
ลงาน สรรหา คัดเลือกบุคคลและองค์กร หน่วยงานข้าราชการ และนักธุรกิจรวมถึงผู้ประกอบกิจสื่อสารมวลชนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งบุคคลวงการสื่อสารมวลชน เพื่อเข้ารับรางวัลเกียรติคุณในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ยกย่อง ชมเชย เชิดชู สรรเสริญและให้กำลังใจให้เป็นบุคคลซึ่งสามารถดำรงตนประกอบหน้าที่ การงาน จนประสบความสำเร็จหรือมีผลงานและปฏิบัติตนอันเป็นประโยชน์ที่ดีจนเป็นที่ยอมรับของสังคมและต่อวัฒนธรรมอันดีงามมีผลงานก่อประโยชน์สร้างสรรค์สังคมที่ดี
โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมเจ้าทิฆัมพร ยุคล เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีมอบรางวัล และมีผู้เข้ารับรางวัลต่างๆ ดังนี้ อาจารย์ กฤตพล แสงซื่อ รางวัล บุคคลต้นแบบ ผู้สร้างแรงบันดาลใจการดำเนินชีวิต สาขาโหราศาสตร์ทับลัคนา
www.10luc.com

เมื่อดวงชาตาหญิงสาวเกิดภายใต้อิทธิพลของพระจันทร์วันกำเนิดโคจรนักษัตรต่างๆ”
(๑) อัศวิณี , อัธยาศัยดีน่าคบหาสมาคม มีทรัพย์สินมาก ท่าทีจูงใจ วาจาไพเราะ มีความอดทน ชอบสมาคมกับต่างเพศ บริสุทธิ์ เคารพนับถือพระผู้เป็นเจ้าและผู้สูงอายุ

(๒) ภรณี, พอใจสมาคมกับเพื่อนสตรีด้วยกัน ดุร้าย มักทะเลาะวิวาท ใจร้าย ยากจน ขลาด เสื้อผ้าสกปรก

(๓) กฤติกา, เจ้าโมโหโทโส ชอบทะเลาะวิวาท คนเกลียดชัง ญาติน้อย ร่างกายผอม เกียจคร้าน ต่อไปสละโลกีย์

(๔) โรหิณี , รูปร่างสวยงาม บริสุทธิ์ ขยัน เสน่หาสามี เชื่อฟังบิดามารดา มีบุตร์ชายหญิงดี มีทรัพย์สิน

(๕) มฤคศิระ, มีความเคารพนับถือ สวยงาม วาจาน่าคบหาสมาคม มีเครื่องประดับอย่างดี ได้บริโภคอาหารรส
ดี เสื้อผ้าสวยงาม มีทรัพย์สินอย่างน่าพอใจ บุตรดี ใจบุญ ร่างกายสะอาดหมดจน

(๖) อาริทะระ, นิสสัยโกรธง่าย น้ำใจไม่ดี บูชาพระผู้เป็นเจ้า ฉลาดการสืบหาความผิดของศัตรู สุรุ่ยสุร่าย อารมณ์ร้ายและเกลียดคร้าน ศึกษาหาความรู้ในทางทุจริต

(๗) ปุนะระวะสุ, ไม่ถือตัว มีคนรับใช้มาก เอาใจใส่คุณงามความดี ใจบุญ ยินดีในสิ่งทั่วไป มีความเคารพนับถือ สามีรูปงาม

(๘) ปุษยมิ, สวยงาม ขยันขันแข็ง มีทรัพย์สิน บุตรดี เคารพพระผู้เป็นเจ้าและนักพรต มีบ้านเรือนเป็นหลักแหล่ง มีความสุขมาก รักพี่น้องเครือญาติ

(๙) อัศเลษะ, น่ารักเกียจ เจ้าทุกข์ ชอบทำบาปหยาบช้า คำพูดหยาบคายรุนแรง ทำการที่ไม่ควรทำ หยิ่ง เจ้ามารยา อกตัญญู

(๑๐) มาฆะ, มีความเคารพนับถือ ติดต่อกับศัตรู ทรัพย์สินมาก เคารพบูชาพระผู้เป็นเจ้าและนักพรต ราชวงศ์อุปถัมภ์

(๑๑) ปุพพะ, มีผลดีเหนือศัตรู เจริญรุ่งเรือง บุตรดี เที่ยงธรรม ทำการอย่างยุติธรรม กล้า พอใจในวิทยาการต่างๆ วาจาดีมีความกตัญญูอย่างน่าสรรเสริญ

(๑๒) อุตตระ, มั่นคง มีทรัพย์สิน เป็นหลักฐาน ฉลาดจัดการงานในบ้านเรือน รักทำความดี สุขสำราญ สุขภาพดี

(๑๓) หัสตะ, มือมีลักษณะงาม นัยน์ตามีเสน่ห์ หูลักษณะดี มีความอดทน นิสัยดี มีทรัพย์สินเงินทอง มีความรู้วิทยาการต่างๆ รูปร่างลักษณะจูงใจ แขนขนมีลักษณะสมส่วน มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย

(๑๔) จิตตะ, รูปงาม มีเครื่องประดับสวยงาม ร่างกายน่าชม
ถ้าเจ้าชะตาเกิดในนักษัตรจิตตะในดิถีข้างแรม เว้นแรม ๑๔ ค่ำ เจ้าชะตาจะเป็นหญิงมีพิษร้าย (วิษกัลยา) และถ้าเกิดในดิถีข้างขึ้นเว้นขึ้น ๑๔ ค่ำ เจ้าชะตาจะยากจนและเป็นโสเภณี

(๑๕) สวาติ, มีคุณงามความดี มีบุตร มีทรัพย์สิน มีความสัตย์ ไม่ชอบท่องเที่ยว เที่ยวเตร่เล็กน้อย มีความเคารพนับถือ เพื่อนมาก ชนะศัตรู

(๑๖) วิศษขะ, วาจาดี รูปร่างแบบบางและสวยงาม มีทรัพย์สิน ชอบไปนมัสการเจดีย์สถานและประกอบพิธีกรรมในศาสนา เห็นอกเห็นใจเครือญาติ

(๑๗) อนุราธะ, มีเพื่อนดี ไม่เห็นแก่ตัว อัธยาศัยน่าคบหาสมาคม และมีลักษณะจูงใจ มีอำนาจในสังคมและในการเมือง มีเครื่องประดับอย่างดีและเหมาะสม เอวงาม เคารพนับถือผู้สู.อายุและครูอาจารย์ เลื่อมใสในศาสนา เคารพสามี

(๑๘) เชษฐะ, นิสัยน่าคบหาสมาคม มีฝีมือในการงาน วาจาอ่อนหวาน สมาคมกับเพื่อนสตรีด้วยกัน ทรัพย์สินมาก มีบุตร มีความสัตย์ เอาใจใส่เครือญาติ

(๑๙) มูละ, มีความสุขเล็กน้อย เป็นหม้าย ยากจน ขัดสน ขี้โรค มีศัตรู ญาติน้อย คนดูถูกดูแคลน ทำการชั่วร้าย รูปร่างต่ำเตี้ย

(๒๐) ปูรพาษาฒะ, นิสัยน่าคบหาสมาคม เป็นผู้นำในหมู่เครือญาติ กระทำความดี มีอำนาจ มีความตกลงใจแน่วแน่ มีความสัตย์ นัยตากว้าง รูปร่างมีลักษณะสวยงาม มีระเบียบเรียบร้อยดี

(๒๑) อุตตราษาฒะ, มีความสุขสบาย มีชื่อเสียง ได้รับความพอใจเป็นอย่างดี เป็นผู้นำ ให้ความสุขและความปองดองกับสามี

(๒๒) ศราวะณะ, สวยงามมาก ฉลาด วนใจศึกษาศาสตร์ต่างๆ ชื่อเสียงดีมาก ใจบุญ มีความสัตย์ ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

(๒๓) ธนิษฐะ, ชอบฟังเรื่องราวต่างๆ อาหารและเสื้อผ้าบริบูรณ์ เผื่อแผ่แจกจ่ายให้ปันสิ่งของต่างๆ ชอบขี้ม้าและยานพาหนะ ลักษณะดีเลิศ ทำความดี

(๒๔) ศตภิษา, สามารถควบคุมกามตัณหา เป็นที่รักชอบพอของสตรีด้วยกัน เครือญาติเคารพนับถือ บูชาพระผู้เป็นเจ้า เคารพและรักผู้สูงอายุ พอใจทำงานด้วยความอลุ่มอล่วย

(๒๕) ปูรพาภัทร, มีทรัพย์สินมาก รักเด็ก ทำการบุญการกุศลในหมู่คนดี การสมาคมดี การศึกษาดี เจริญรุ่งเรือง ฐานะเด่นในสังคม

(๒๖) อุตตราภัทร, เป็นที่เสน่หาของสามี มีความอดทน เคารพสามี อัธยาศัยดีอ่อนน้อมต่อครูอาจารย์ ไม่ถือตัว ฉลาดและไหวพริบ พอใจความดี

(๒๗) เรวดี, มีเกียรติศักดิ์ เพื่อนมาก บริสุทธิ์ พอใจประกอบพิธีกรรมในศาสนา ลักษณะจูงใจ มีปศุสัตว์วัวควายมาก ชนะศัตรู สวยงาม
ดาวนักขัตฤกษ์ หรือ ดาวนักษัตรฤกษ์ เรียกย่อว่าดาวฤกษ์ ในทางโหราศาสตร์ไทยและภารตะ หมายถึงกลุ่มดาวที่มีตำแหน่งคงตัว 27 กลุ่มที่เรียงตัวกันบนฟากฟ้า ในวิชาโหราศาสตร์ เมื่อจะให้ฤกษ์หรือพยากรณ์ชีวิตบุคคล ก็จะต้องดูว่าดวงจันทร์ ในขณะที่เกิดหรือทำการนั้น ทับดาวนักขัตฤกษ์ที่ดีหรือไม่ นอกจากนี้อาจดูให้ละเอียดลงไปถึงลัคนาด้วยว่าอยู่ในกลุ่มดาวใด ดาวฤกษ์ต่างจากดาวเคราะห์ตรงที่ดาวเคราะห์สามารถเคลื่อนที่ไปในจักรราศีได้ และสามารถบันดาลชะตาต่อบุคคลหรือสถานที่ได้ ซึ่งในทางโหราศาสตร์จัดว่าดวงอาทิตย์เป็นดาวเคราะห์ด้วย

ฤกษ์แต่ละฤกษ์กินอาณาเขต 800 ลิปดา แบ่งออกเป็นส่วนย่อยได้สี่ส่วนเรียกว่าบาท มีขนาดเท่ากับนวางค์ของราศี คือ 200 ลิปดา ฤกษ์ใดที่บาททั้งสี่อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกฤกษ์นั้นว่าบูรณฤกษ์ หมายถึงฤกษ์ครบถ้วน หรือฤกษ์ดีงาม ฤกษ์ใดที่มีสามบาทอยู่ราศีหนึ่ง และอีกบาทหนึ่งอยู่อีกราศี เรียกว่า ฉินทฤกษ์ แปลว่าฤกษ์แตกหัก เป็นฤกษ์ร้ายแรงมาก ส่วนฤกษ์ใดที่มีสองบาทแบ่งครึ่งสองราศี เรียกว่า พินทุฤกษ์ หรือฤกษ์เปื้อนเปรอะ เป็นฤกษ์ที่มัวหมอง

หมวดฤกษ์[แก้]

หมวดฤกษ์ (ฤกษ์ล่าง) [1] หมายถึงชื่อฤกษ์ที่บรรยายความเป็นไปของดาวนักขัตฤกษ์ (ฤกษ์บน) [2] มีทั้งหมด 9 ฤกษ์ ดังนี้

1. ทลิทโทฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ชนมะ

ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้ร้องขอ ผู้ขอ ผู้มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เสน่ห์แรง มีดาวพระเกตุเป็นดาวเจ้าฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ เพราะเป็นฤกษ์อันดับแรกของจักราศี และเป็นฤกษ์ประเภทบูรณะฤกษ์ หรือฤกษ์เต็มครบทั้ง ๔ บาทฤกษ์ ถือว่าจะให้ความราบรื่น ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น  การขอหมั้น ขอความร่วมมือ ขอแต่งงาน กู้ยืม ร้องทุกข์ งานด้านมูลนิธิ งานด้านการกุศลที่แจกจ่ายสิ่งของแก่ผู้เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ การสำรวจทุกข์ร้อนของราษฎร การขอความเห็นใจเพื่อราษฎรและส่วนรวม การทำการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา มีความเมตตากรุณาปราณี เกิดเสน่ห์ เมตตามหานิยม คนนิยมชมชอบ เปิดร้านขายของเล็กๆน้อยๆ  การสมัครงาน ทำการใดๆที่ริเริ่มใหม่ **คนที่ไม่รู้โหราศาสตร์มักไปแปลผิดๆว่าเป็นฤกษ์ยาจก ขอทาน คนเข็ญใจ ซึ่งไม่ถูกต้อง หากเป็นฤกษ์ขอทานแล้ว โบราณคงไม่ใช้ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์สู่ขอลูกสาวชาวบ้านอย่างแน่นอน **ความจริงฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ที่ให้คนเมตตา สงสาร รักใคร่ ขออะไรก็ได้แม้แต่ลูกสาวของคนอื่นซึ่งถือว่ามีค่ามากที่สุดของครอบครัวนั้นๆ ฤกษ์นี้มีดาวพระเกตุเป็นดาวเจ้าฤกษ์ จะให้คุณแก่ดวงฤกษ์ตามลักษณะและความหมายด้านดีของดาวเกตุ (**เกตุนี้เป็นเกตุ คำนวณแบบอินเดีย ไม่ใช่ดาวเกตุแบบสยาม)

ส่วนคนที่มีดวงชาตาเสวยฤกษ์นี้ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่หยิ่งยะโส ใครๆก็สงสารเมื่อตนขอความเห็นใจ พ่อแม่คนรอบข้างจะดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะสามารถรับฟังเรื่องทุกข์ร้อนของผู้เป็นเลิศ เรียบง่ายติดดิน ไม่นิยมของราคาแพง ชอบของมือสอง ซ่อมของใช้ที่พังแล้วมาใช้ต่อได้ ไม่ทิ้งขว้างสิ่งของต่างๆเพื่อนำกลับมา Recycle จะเก็บไว้ตลอดแม้แต่ของเล่นสมัยเด็กๆ ถ้าเกิดมารวยหรือเป็นผู้ดีมีตระกูลบุญชาติก็จะเป็นคนเรียบหรูมีสไตล์แบบเรียบๆพอดีๆ ย้อนยุคหน่อยๆ แต่ไม่ฟุ้งเฟ้อไม่เกินตัว ไม่อวดดี เข้าทำนองผ้าขี้ริ้วห่อทอง เข้ากับคนทุกชนชั้นวรรณะได้ง่ายกว่าฤกษ์อื่นๆ ไม่ถือตัวอวดดี มีความประหยัดมัธยัสถ์ รู้จักการออมเป็นเลิศ มีความพอเพียง มีการคำนวณรายจ่ายเพื่ออนาคตได้ดีมากๆ สามารถเอาตัวรอดได้ในยามที่ขาดเงินทอง อาชีพเด่นๆคือ นักสังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆที่ทำงานช่วยเหลือเพื่อคนทุกข์ยาก นักวิจัยที่ออกสนามสอบถามข้อมูล กรมประชาสงเคราะห์ งานด้านสวัสดิการ สำนักงานประกันสังคม งานประกันภัยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในยามทุกข์ยาก ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ตามคู่สายของราชการและหน่วยงานต่างๆ งานช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากอันเป็นตัวกลางเพื่อผู้เดือดร้อนนำเรื่องสู่ราชการ ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ในแผนกศาลฎีกา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือข้าราชการในบางสาขาบางแผนกที่รับเรื่องร้องทุกข์จากราษฎรเพื่อนำเข้าสู่สภา กระทรวง ทบวง กรม ฯ และขอความช่วยเหลือจากรัฐไปสู่ราษฏรโดยทั่วถึงและเท่าทันอย่างยุติธรรม คนในมูลนิธิต่างๆ ฯลฯ จะมีชีวิตที่เรียบง่ายติดดินแต่มั่นคง ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสุด ชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขมาก

2. มหัทธโนฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า สมบัติ

มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า ผู้มั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี เงินทอง ความร่ำรวย มีดาวพระศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ นักธุรกิจการเงิน พ่อค้า แม่ค้า ผู้มีธุรกิจต่างๆเป็นของตัวเอง บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น “บูรณะฤกษ์” เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ ทุกอย่าง เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจด้านบัญชี  แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทองคำ เงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน เปิดร้านค้าต่าง ร้านแลกเงิน ร้านขายทอง ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา และ สารพัดงานมงคลที่ต้องการความร่ำรวยมีเงินทอง ทรัพย์สินมากมาย ฤกษ์นี้มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ก็จะเด่นในเรื่องความรัก กิจการสถานบันเทิง ดนตรี ศิลปกรรมทั้งหลาย เสื้อผ้า ของแต่งกาย การตกแต่ง Interior Exterior งานออกแบบ ร้านอาหาร ธุรกิจด้านความงาม ร้านเสริมสวย ก็จะเด่นมากขึ้นไปอีก เป็นฤกษ์ที่นิยมใช้เปิดบัญชีธนาคาร ลงทุกซื้อหุ้น ใช้เปลี่ยนชื่อ นามสกุลเพื่อความผาสุขมีกินมีใช้ไม่อดอยากอับจน งานด้านตลาดการค้าและศูนย์การค้า Shop , Mall , Market , Supermarket , Trading , Crypto Currency , Exchange Rate ,Stock Exchange ตลาดหุ้น ตลากหลักทรัพย์ การค้าขายรายย่อยรายใหญ่ ปลีก-ส่ง ร้านโชว์ห่วย ตลาดนัด เปิดท้ายขายของมือสอง ร้านค้าทุกขนาดในทุกๆสถานที่ก็ใช้ฤกษ์นี้ได้หมดและเหมาะสมอย่างยิ่ง

สำหรับคนที่เกิดเสวยฤกษ์นี้ จะเป็นผู้มีรูปร่างหน้าตาดี งดงาม หล่อ สวย ดูรวย(ถึงแม้จะไม่ได้รวย) ตอนเด็กจะมีกระปุกหมูออมสินมากกว่าเด็กคนอื่นๆและชอบเอาเงินไปแอบไปซ่อนหรือฟังดินเล่นเกมส์ตามหาสมบัติจะชอบมาก เมื่อโตมาจะแต่งตัวหรู ดูมีราคา ใส่อะไรก็ดูแพง(ถึงแม้จะไม่แพง) บางรายชอบใช้ของมีราคา รสนิยมสูง มีวาทศิลป์ด้านธุรกิจเป็นเสิศ กะเก็งกำไรได้ดีกว่าฤกษ์อื่นๆ มีหัวการค้า ทันสมัย มีไหวพริบในการแสวงหากำไรในทุกๆโอกาศที่ผ่านเข้ามา พูดจาฉะฉานโดยเพาะในการต่อราคาสินค้า การ Deal การ Trade ไม่เป็นสองรองใคร เก่งคณิตศาสตร์ Mathematic , Physic , Engineer การบัญชี การคำนวณ หรือวิทยาศาสตร์ งานวิศวกรและสารสนเทศในบางสาขาที่ใช้ตัวเลขเยอะๆก็เด่น เด่นในเรื่องงานทางด้านเงิน อัตราแลกเงินระหว่างประเทศ งานธนาคาร งานประกันภัยที่เกี่ยวกับบัญชีการเงิน งานเกี่ยวหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ฯ มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุขไม่ขาดเงินทองแม้ในยามทุกข์ยาก มีเงินเก็บพอสมควร ร่ำรวยได้ไม่ยาก สามรถถีบตัวจากผู้มีรายได้น้อยไปสู่ความร่ำรวยได้ง่ายกว่าฤกษ์อื่นๆ ไม่ค่อยมีเรื่องทุกข์ร้อนจากเรื่องเงิน มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีการคำนวณรายจ่ายและกำไรต่างๆได้ดีเพื่อเงินจะได้พอกพูนเป็นเลิศ

3. โจโรฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า วิปัติ

โจโรฤกษ์ แปลว่าผู้ช่วงชิง ผู้ว่องไว (ไม่ได้แปลว่า โจร ผู้ลักขโมย ตามที่เข้าใจผิด เพราะราชสำนักในสมัยโบราณไม่มีการคิดฤกษ์ให้โจรไปใช้) โจโรฤกษ์คือผู้ที่ว่องไวมีเล่ห์เลี่ยมชั้นเงินเป็นที่สุด มีไหวพริบในยามคับขันมากกว่าผู้อื่น ฉลาดทันคน ถูกหลอกได้ยาก สามารถวางแผนค่ายกลได้ดีกว่าผู้อื่น วางแผนซ้อนแผน ถูกจับได้ยาก คนฤกษ์นี้วางแผนไว้ในหัวเรียบร้อยหมดแล้วโดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวเพราะชอบทำการใหญ่คนเดี่ยวหรือเป็นทีมเล็กๆ เพื่อความคล่องตัว มีดาวอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น “ฉินทฤกษ์”  คือ ฤกษ์ไม่เต็มบาท มักไม่ใช้เป็นฤกษ์มงคล แต่เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบโดยใช้กำลังอย่างฉับพลันภายในไม่กี่วัน(ไม่เกิน 7 วัน) ในยุคปัจจุบันคือฤกษ์ที่เหมาะสำหรับการแข่งขันในธุรกิจและการกีฬา โดยเฉพาะกีฬาด้านการต่อสู้ เช่น กระบี่กระบอง ฟันดาบ Fencing , Rapier , Archery , Kendo , มวยไทย ศิลปะวิทยายุทธในทุกสาขา ฯลฯ การเอาชนะในทุกรูปแบบ ก็มักจะใช้ฤกษ์นี้ เป็นฤกษ์ประกอบการ แต่โหรมักไม่ให้ฤกษ์นี้แก่ใครง่ายๆ นอกจากจะเป็นเรื่องที่สำคัญต่อบ้านเมือง หรือเฉพาะตัวหรือเจาะจงว่าบุคคลคนคนนั้นต้องการจะนำไปทำอะไร เช่นการให้ฤกษ์ทำการปฏิวัติ รัฐประหาร การประลองสนามกีฬาการต่อสู้เพื่อรางวัล ก็มักใช้ฤกษ์นี้

สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนที่เงียบๆ โลกส่วนตัวสูง หรือที่เรียกว่า คมในฝัก ไม่ชอบเข้าสังคม แสดงตัวโสด มีเพื่อนน้อยหรือไม่มีพันธะผูกพันเพื่อความคล่องตัว มีความสามารถในด้านการแข่งขันสูง การช่วงชิงเอาชนะ อาชีพเด่นคืองานนักสืบ งานด้านการวางแผน นักธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง นักกีฬาในทุกๆสาขา งานที่เกี่ยวกับ นักสืบเอกชน สายลับราชการ นักสืบในหน่วยพิเศษ เช่น MI6 , CIA , FBI , DSI , สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (NIA) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ISOC) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (SBB) , สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง , หรือผู้มีความถนัดด้าน Psychological Warfare ฯลฯ ในบางกรณีคนที่รวยมากๆก็มักเกิดฤกษ์นี้เพราะอาศัยเล่ห์เหลี่ยมในการทำธุรกิจที่มีชั้นเชิงมากกว่าคู่แข่งจนร่ำรวยก็มี มีไหวพริบในยามคับขันมากกว่าผู้อื่น ฉลาดทันคน ถูกหลอกได้ยาก ชอบพลิกสถาณการณ์ให้ได้เปรียบได้อยู่เสมอแม้จะเสียเปรียบ ใช้กำลังน้อยปราบกองกำลังขนาดใหญ่ สามารถวางแผนค่ายกลได้ดีกว่าผู้อื่น

4. ภูมิปาโลฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า เกษม

ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีดาวพระจันทร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลสารพัดต่างๆ ทำได้หมด เป็นฤกษ์ที่ดีมากแบบกลางๆ ใช้ได้โดยไม่ต้องคิดมาก เหมาะสำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัยทุกชนชั้น ทุกที่ทุกเวลา งานที่ต้องการความมั่นคงถาวรยาวนาน งานเกี่ยวกับแผ่นดิน รักษาแผ่นดิน รักษาน้ำ ธรรมชาติ ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติไม่ให้เสื่อม ปกป้องรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ งานคุ้มครองราษฎรจากภัยพิบัติ เช่นภัยแล้ง อุทกภัย พายุ งานบรรเทาภัยแล้ง ส่งเสริมงานด้านการสาธารณสุขเพื่อราษฎร บ่อน้ำ อ่างเก็บน้ำ สร้างเขื่อน การไฟฟ้าสู่ภูมิภาคให้ทั่วถึงทุกครัวเรือน งานประปา แจกจ่ายน้ำตามคูคลองในพื้นที่ห่างไกลและตามชนบทอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน หรืองานที่ต้องดูแลมวลชนมากให้อยู่ดีมีสุขๆ งานด้านอาสาสมัคร จิตอาสา งานลูกเสือ งานกาชาด ยุวกาชาด เนตรนารี เปิดงานชุมนุมลูกเสือ การด้านการกุศล งานธุรกิจด้านการเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้างอาคาร พิธีลงเสาเอก ยกเรือน ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ เจ้าที่ อัญเชิญเทพยดาและสิ่งศักดิสิทธิ์ลงมา งานขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท งานมงคลโดยทั่วไปใช้ได้หมด เปลี่ยนชื่อ นามสกุล เจิมบ้าน เจิมป้ายบริษัท เปิดป้ายห้างร้าน เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทำได้หมด ฤกษ์นี้มีดาวจันทร์ครองเป็นเจ้าฤกษ์ ดังนั้น ธุรกิจที่ข้องกับดาวจันทร์ก็คือ ธุรกิจทางน้ำ สื่อสารมวลชน การข่าว งานสารสนเทศการข่าว นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ ศิลปะกรรม งานโบราณคดี งานอนุรักษ์ของเก่า โฆษณาประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ Social Media , Media ก็จะเด่นมาก

สำหรับคนที่เกิดในฤกษ์นี้ จะเป็นคนที่มีอำนาจในตัวเอง ดูมียศศักดิ์และฐานะดี เป็นผู้ดี มีออร่า เรียบหรูพอดีๆ บางคนอาจจะดูดีมีชาติตระกูลถึงแม้จะไม่ได้รวยมาตั้งแต่เกิด ชอบงานราชการถึงแม้จะไม่ได้รับราชการ หรือสนใจเรื่องต่างประเทศและการข่าว มีจิตใจเมตตากรุณา มีความปราณีต่อผู้น้อย ชอบให้รางวัลของปลอบใจแก่ผู้อื่นเสมอ ไม่ชอบข่มเหงบังคับผู้อื่นในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ไม่นิยมที่จะลงโทษผู้อื่นด้วยกำลัง ไม่เจ้าระเบียบจู้จี้จุกจิก เป็นคนสบายๆ รักการถ่ายภาพ ถ่ายรูป แต่ต้องถูกต้องถูกตามกาลเทศะและประเพณี ทำงานก็ไม่เร่งรีบ มาสายได้(ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง) ไม่เรื่องมาก ***เน้นดูเอาที่ความดีในการทำงานหรือผลงานของบุคคลมากกว่าการแต่งกายหรือเสื้อผ้าหน้าผมซึ่งเป็นแค่เปลือกนอกอันไม่ได้มีผลต่อการปฏิบัติงานเลยแม้แต่น้อย บุคคลฤกษ์นี้จะแต่งตัวให้ดูดีมี style , vintage , classic หรือดูเก่าดูโบราณก็ต่อเมื่อออกงานสำคัญๆเท่านั้น จะไม่แต่งตัวอุจจาดแปลกประหลาดในที่สาธารณะ ไม่ล้วงแคะแกะเกาหรือเดินควงหญิงนางโลมในที่สาธารณะกลางวันแสกๆต่อหน้าสาธารณชน(**ซึ่งจะมาอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้เด็ดขาดเพราะกระทำการในที่สาธารณะแบบเปิดเผยให้เห็นไปโดยทั่ว แต่หากเป็นภายในกำแพงบ้านหรือที่พักอาศัยก็ทำไปเถิดตามแต่ใจปรารถนา) ชอบดำเนินรอยตามประเพณีที่มีมา ***ไม่แหกคอกหรือรื้อธรรมเนียมเดิมของคนก่อนๆ ***ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจและทั่วถึงโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะ อาชีพเด่นคือในทางด้านการนักปกครอง ผู้จัดการ นักการเมือง ผู้บริหาร ผู้อำนวยการ ข้าราชการ นักโบราณคดี ครู อาจารย์ นักแสดง หรือ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็จะดี

5. เทศาตรีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรัตยุระ

เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า สามแผ่นดินหรือหลายแผ่นดิน (เทศหรือเทศา แปลว่าประเทศ ตรีแปลว่าสามหรือมากมาย ) ผู้ท่องเที่ยว ผู้เดินทางผ่านแผ่นดินต่างๆ สมัยโบราณตั้งฤกษ์นี้เพื้อให้บรรดาราชทูตเดินทางออกไปถวายราชสาสน์ เชื่อมสัมพันธไมตรี หรือเจรจาทางการค้าระหว่างราชอาณาจักร (**คนที่ไม่มีความรู้บางท่านมักแปลผิดเป็น ฤกษ์หญิงแพศยา ซึ่งผิดมหันต์ และอีกอย่างฤกษ์ทั่งหลายนั้นไม่มีเพศเพราะเป็นเพียงเวลาตามดวงดาวและการโคจรของดาวฤกษ์) ***ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ที่สำคัญเพราะราชสำนักสมัยโบราณตั้งฤกษ์นี้เพื้อให้บรรดาราชทูต เอกอัครราชทูต กรมการกงศุลทั้งหลายใช้ในการเดินทางผ่านไปยังแผ่นดินต่างๆโดยเฉพาะ บางคราก็เรียกว่า “เวสิโยฤกษ์”  หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า ที่ต้องเดินทางค้าขายทางเรือระหว่างประเทศโดยเรือสำเภา หรือเรือใบ จึงเป็นฤกษ์ที่นิยมใช้ในการเปิดท่าเรือ ต่อเรือสำเภา พิธีปล่อยเรือลงน้ำ ก็นิยมใช้ฤกษ์นี้ มีดาวพระอังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศีพฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มกรกับกุมภ์ เป็น  ภินทฤกษ์ ปัจจุบันเป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการทูต สถานทูต การต่างประเทศ งานติดต่อการค้าระหว่างประเทศ งานที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ ล่าม Interpreter กิจการทัวร์ Tour Guide การท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว Department of Tourism (สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว) Tourism Management ธุรกิจนำเข้า ส่งออก Export-Import ครูสาขาศิลปกรรมศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว ครูสอนการโรงแรมและการบินพลเรือน ครูสอนภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสอนภาษา นักเดินเรือ ผู้ปฏิบัติงานบนเรือสำราญ เรือส่งสินค้าข้ามประเทศทวีป เรือเดินสมุทร การท่าเรือแห่งประเทศไทย การท่าเรือเอกชน งานสารสนเทศที่ต้องใข้ภาษาต่างประเทศ กิจการโรงแรม โรงหนัง งานภาพยนตร์(ต่างประเทศ) ตลาดการค้าและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพที่ต้องเดินทาง หรืออาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ เช่นราชทูต Tour Guide ฤกษ์นี้มีดาวอังคารเป็นดาวเจ้าฤกษ์

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เรียนรู้ได้หลายภาษา หัวไว ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ สแกนดูแล้วสแกนดูอีก วาจาคมคาย มีดโกนอาบน้ำผึ้ง วาจาเฉือดเฉือน ชนิดที่ฝ่ายตรงข้ามเถียงไม่ออกต้องถอยกลับไปไม่เป็นขบวน เหตุผลหนักแน่น ยิ่งกว่าชักแม่น้ำทั้งห้า เพราะเป็นเหตุผลที่กลั่นกรองมาอย่างดีชนิดที่เถียงไม่ออก หรือบางครั้งพูดจนคนอื่นงงตามไม่ทัน แต่เมื้อย้อนกลับมาดูปรากฏว่าจริงทุกประการ เหมือนทำนายอนาคตได้ ชอบดูสถิติและการข่าวในเหตุการณ์ที่คนทั่วไปยังนึกไม่ถึงว่าสำคัญแต่สำคัญมากๆ เก็นรายละเอียดยิบๆๆ จนน่ารำคาญแต่ได้ผลชะงัด เก่งภาษาอย่างมาก พูดเยอะและต่อยหนัก(ตรงข้ามกับโจโรฤกษ์ที่พูดน้อยแต่ต่อยหนัก) มีเสน่ห์แรงมากๆด้วยบุคลิคภาพที่ทันสมัย มีวาจาเป็นเลิศ สมองเฉียบคม ถูกหลอกได้ยาก ชอบวางแผนซ้อนแผน มักได้ทำงานเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ งานด้านการทูต งานด้านการท่องเที่ยว งานผู้นำชมสถานที่โบราณ งานโบราณคดีที่ใช้ภาษาต่างประเทศ หรือเกี่ยวข้องกับภาษาต่างประเทศ บางรายมีทรัพย์สินที่ดินบ้านช่องพอประมาณ เสมอตัว หรือลำบากไม่นานมักฟื้นตัวได้ทัน แต่ชีวิตในบางช่วงอาจต้องลำบากหรือต้องย้ายถิ่นฐานบ้านช่องอยู่เสมอๆ  หากไม่ได้ร่ำรวยแงินทองก็จะมีปัญญาความรู้มากกว่าคนอื่นๆ จะเป็นที่เกรงขามจากสติปัญญาของตนที่แสดงออกมาอันเป็นบารมีอย่างหนึ่งจนทำให้ผู้อื่นต้องตะลึงด้วยความสามารถในการคาดการสถานการณ์บางอย่างได้ก่อนคนอื่น หากอยู่ต่างถิ่น หรือทำงานไกลบ้าน ในสถานที่โอ่อ่าอลังการ ในโบราณสถาน มิวเซียมเรือโบราณ หรือบนเรือเดินสมุทร ก็จะเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยดีกว่าถิ่นกำเนิดของตัวเอง คนที่เกิดในฤกษ์นี้มักเด่นในด้านชื่อเสียง มีใจคอเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวใคร ใครมาท้าทายไม่ได้ จะวางแผนจัดการอย่างแยบคายจนจับทางไม่ถูก คมในฝัก หรือเป็นผู้มีความถนัดด้าน Psychological Warfare อย่างจัดเจน สามารถใช้สถานการณ์ต่างๆรอบตัวเพื่อปรับเกมส์ให้ได้เปรียบขึ้นมาได้ทันทีหรือแม้แต่ใช้การเสียเปรียบของตนให้เป็นการได้เปรียบขึ้นมาได้เช่นกัน

6. เทวีฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า สาธะกะ

เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ราชินี ความสวยงาม อลังการ แสดงถึงความงามหรูหราโอ่อ่าอลังการตามประเพณี ศิลปกรรมศาสตร์อันวิเศษ ศิลปกรรมชั้นสูงที่แสดงถึงความละเอียดอย่างที่สุด งานศิลปที่วิจิตรอลังการดุจเทพสร้าง งานศิลปกรรมโบราณที่ตกทอดสืบมาจากบรรพบุรุษหลายร้อยปี มายาศาสตร์ ความมีเสน่ห์ โชคลาภ เงินทองทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่งที่หรูหราอย่างมีแบบแผนงดงามตามประเพณีแต่ไม่เลอะเทอะฟุ้งเฟ้อแบบไร้แก่นสาร ได้แก่ งานศิลปกรรมโบราณที่โอ่อ่าอลังการที่สร้างมาเพื่อสาธารณชนให้เกิดความภาคภูมิใจในรากฐานประเพณีอันยาวนานแห่งเชื้อชาติแผ่นดินเกิดของตน ประเพณีโบราณแห่งชนชาติอันยาวนาน ของหรูหรา เพชรพลอย เงินทอง เครื่องประดับอัญมณี โบราณวัตถุอันวิจิตร งานหัตถศิลปทุกสาขา ในโหราศาตร์ยังหมายถึงการสมความปรารถนาในทุกๆเรื่อง มีดาวราหูเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ความมีเสน่ห์เมตตามหานิยมที่รุนแรงที่สุด บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานที่ต้องการความสวยงามหรูหรา วิจิตรอลังการ การสืบสานงานด้านประเพณีที่มีมายาวนาน งานสร้างศิลปกรรมทุกแขนง การออกแบบที่ละเอียดและวิจิตรพิสดาร ศิลปกรรมในพระราชวัง ศิลปกรรมในศาสสถาน วิหาร เทวาลัย เทวสถาน ความมีชื่อเสียง มีพลังฤกษ์ที่นุ่มนวลอ่อนช้อยดุจเทวี ออกแบบเสื้อผ้า แฟชั่น งานแสดง งานดอกไม่ประดับ งานนิทรรศการ งานมหรสพ โรงหนัง โรงภาพยนตร์ ดารา นักแสดง การละคร ละครเวที ผู้กำกับภาพยนตร์ งานตัดต่อภาพยนตร์ งานภาคเสียง นักดนตรี งานสื่อภาพยนตร์ แสงสีเสียง งานสารสนเทศการละคร งานอีเวนท์ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า  สารพัดงานมงคลทั้งปวงสามารถใช้ฤกษ์นี้ได้ ฤกษ์นี้มีดาวพระราหูเป็นเจ้าฤกษ์ แสดงถึงความลุ่มหลง หลงใหล การพนันขันต่อ ความมีเสน่ห์ จะให้คุณเป็นพิเศษ

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนาดี บารมีสูงส่งดุจเทวีแม้จะไม่ได้เกิดมาร่ำรวยก็จะดูดีเป็นที่สุด ผิวพรรณละเอียดผ่องใส ชายหญิงในฤกษ์นี้จะหน้าตางดงามสวยหล่อเหลาเอาการ หรือบุคลิกภาพการเจรจาจะดูดีมีเสน่ห์มากกว่าคนทั่วไปมากกว่าคนในฤกษ์อื่นๆ ไม่ขาดรัก ไม่ขาดแฟน หรือมีแฟนมากทั่วทุกหัวระแหง ในบางรายถ้าเป็นชายจะหน้าตางดงามเป็นพิเศษหรือมีออร่าและมักจะชอบผู้ชายด้วยกัน ในบางรายถึงแม้จะแต่งงานแล้วก็ยังอดที่จะชอบผู้ชายด้วยกันไม่ได้ ทำอะไรมักจะมีคนคอยช่วยเหลือตลอดไม่ตกอับไม่ดับจน ได้รับความเมตตากรุณาเป็นพิเศษ มีคนอุปถัมภ์ค้ำชูไม่ขาดสาย จะเป็นคนที่แก่ช้า แลดูอ่อนกว่าวัยเสมอ เดินทางไปใหนก็มีแต่คนรักคนชอบอยากคบหาพูดคุยด้วยตลอด มีชีวิตที่สงบสุขและสุขสบาย ไม่เดือดร้อนมากนัก ชอบความหรูหราเป็นที่สุด ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า สะอาดเรียบร้อย รักนวลสงวนตัว หรืออาจจะปาร์ตี้สุดๆชนิดที่ Casanova ยังเรียกพ่อ มีจิตใจเมตตาปราณี รักสัตว์ ไม่ชอบการทะเลาะวิวาทแบบใช้กำลัง ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หุ่นดี หญิงจะเป็นนางแบบ ชายจะเป็นนายแบบหรือเป็นนักกล้าม Fitness Trainer หรือไม่อย่างน้อยก็รูปร่างและสุขภาพจะดีเป็นพิเศษ แม้แต่ตอนป่วยก็ยังดูดีมีออร่า ราศีไม่ตก แต่งตัวไม่ตกยุค ไม่ตกเทรน อย่างไรก็ตามก็มักจะชอบลุ่มหลงอะไรง่ายๆ บุคคลในฤกษ์นี้จะมีชื่อเสียงศุภะดีอย่างล้นเหลือถ้าจับงานศิลปกรรม อาชีพเด่นๆก็คือ นักแสดง ดารา นักแสดงละครเวที งานละครเวที งานภาพยนตร์ นักศิลปกรรมทุกๆสาขา นักศิลปวิทยา ครูศิลปะในทุกสาขา งานตกแต่งภายใน Interior กิจการเกี่ยวกับร้านอาหาร ผับบาร์ ไนท์คลับ เครื่องดื่ม อัญมณี เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของหรูหรา ของเก่า ของโบราณ ร้านขายของโบราณที่สวยงามวิจิตร ฯลฯ

7.เพชฌฆาตฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า นิธนะ

เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า  ผู้ทำการตัด การฟัน ลงดาบ หรือการแบ่ง (ไม่ได้หมายถึงเพชฌฆาตที่ทำการประหารชีวิต) ซึ่งศัพท์คำนี้แปลว่า “ผู้ตัด” เฉยๆ  ส่วน เพชฌฆาตฤกษ์ แปลความว่า “ฤกษ์แห่งการตัด” ไม่เกี่ยวกับการฆ่าแต่อย่างใด  มีดาวพระพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ เป็นฤกษ์แห่งแม่ทัพ นายกอง ท้าวพระยาในสมัยโบราณใช้ในการรบในมหาสงครามด้วยการยาตราทัพขนาดใหญ่ การหาฤกษ์เพื่อประกาศสงครามระหว่างราชอาณาจักร การจัดทัพ การจัดตั้งค่ายคูประตูหอรบ กองกำลังขนาดใหญ่ การเดินทัพสู่สงคราม ฤกษ์บาททั้ง 4 ตัดขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า “ตรินิเอก”  คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลโดยทั่วไป เป็น ฉินทฤกษ์ แต่เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การประกาศสงคคราม การยาตราทัพ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด  ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ลงอักขระเลขยันต์ การเขียนยันต์ ปลุกเสกเลขยันต์ พิธีกรรมที่ต้องใช้คาถาอาคมอันแรงกล้า ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ จะด้วยไสยศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ก็ดีหมด การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ สร้างวัด เทวสถาน การบวชเรียน การบำเพ็ญเพียรทางจิต การนั่งสมาธิภาวนา การศึกษาศาสตร์ลี้ลับ อาคมต่างๆ ศึกษาโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ Astrology , Horoscope , Tarot Card , Paganism , Wicca Ritual , Casting Spell , Witchcraft , Hermit , แพทย์ศาสตร์ ฯลฯ หรือบางทีก็เป็นฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ประดิษฐานรูปเคารพเพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์มากเป็นพิเศษ  ฤกษ์นี้มีดาวพระพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ก็จะให้คุณโดดเด่นทางด้านการศึกษา คาถาอาคม การร่ายมนต์ การปลุกเสก และการศาสนา การปฏิบัติทางจิตภาวนาเป็นพิเศษ ฤกษ์นี้ยังใช้ในการเปลี่ยนชื่อนามสกุลได้ เพื่อต้องการความมั่นคงและจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีจิตใจดีหนักแน่นเด็ดเดี่ยวมากกว่าฤกษ์อื่นๆ มั่นคงในคำพูดเป็นที่สุด พูดจาขวานผ่าซาก เด็ดเดี่ยวจริงจัง ไม่มีลับลมคมใน จะคล้ายโจโรฤกษ์แต่จะแรงกว่าและจะทำแบบเปิดเผยไม่แทงข้างหลัง สู้ซึ่งๆหน้า วิ่งใส่เข้าไปตรงๆ พังเป็นพังตายเป็นตายด้วยบารมีและความกล้าไม่เป็นรองใคร จะทำอะไรจะทำไปแบบตรงๆ แรงๆ ไม่มีเล่ห์นัยด้วยความตรงไปตรงมาชนิดที่ฝ่ายตรงอาจจะเกรงกลัวได้เช่นกันเพราะเปิดเผยแบบเปิดหน้าสู้ มีศีลธรรม เคร่งในศาสนา เรียนรู้สิ่งต่างๆได้เร็ว ทันสมัย ไม่ตกยุคไม่ตกเทรน หูไวตาไว เป็นคนเฉียบขาด ซื่อตรง ซื่อสัตย์ เกลียดชังการคดโกง  มีความกตัญญูรู้คุณ ไม่ปลิ้นปล้อนไม่ตอแหล ไม่หวั่นไหวเกรงกลัวต่อสิ่งใดทั้งสิ้น วางแผนดีรอบคอบ เป็นที่เคารพในคนหมู่มาก มีคนเคารพนับถือมาก มีการศึกษาในระดับสูงๆ อาชีพเด่นๆ ก็คือ นักพยากรณ์ Psychic Medium , Ghost Hunter – Paranormal Investigator , Local or Traditional Healer , นักวิทยาศาสตร์ในทุกๆสาขาวิชา NASA , Astronomy , งานวิทยาศาตร์ด้านพลังงานปรมาณู งานปรมาณู ไฟฟ้าปรมาณู งานด้านพลังงาน นักการสถิติ การทหาร ข้าราชการทหาร ทหารประจำการ ทหารพราน ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการทหารสูงสุด สามเหล่าทัพ กระทรวงกลาโหม ครูอาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ อนุศาสนาจารย์ ผู้คงแก่เรียน แพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญในเครื่องจักรยนต์ กลไกต่างๆ

8. ราชาฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า มิตระ

ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าแผ่นดิน พระมหากษัตริย์ พระบรมราชวงศ์ หรือผู้มีอำนาจวาสนา มีดาวพระเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าฤกษ์ทั้งปวงและให้ความมั่นคงยาวนานกว่าฤกษ์ใดๆ ฤกษ์นี้เหมาะสำหรับ  งานราชการทั้งหลายทั้งมวล ทุกกระทรวงบวงกรม เปิดอาคารสถานที่ราชการ โรงเรียนรัฐ โรงพยาบาลรัฐ ลงเสาเอกพระที่นั่ง สงเสาเอกสถานที่ราชการ งานเปิดป้ายต่างๆโดยมีการเสด็จพระราชดำเนินไปในการนั้นด้วย งานทั้งหลายที่มีการอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนิน งานพระราชพิธีต่างๆ งานบรมราชาภิเษก ราชาภิเษกสมรส เสด็จเปิดงานต่างๆ เสด็จเป็นกระบวนยาตราขนาดใหญ่ หรืองานประเพณีที่ต้องการแสดงถึงความยิ่งอลังการที่มีมาแต่โบราณ เช่น Sukothai , Ayuddhaya , Rattanakosin Fair , งานพระราชอุทยาน ร.2 ..etc หรืองานที่ยิ่งใหญ่อลังการระดับ World Fair งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตามมากๆ การเข้ารับตำแหน่งงานในตำแหน่งระดับผู้บริหาร หัวหน้างาน ผู้อำนวยการ งานที่ต้องการแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การสถาปนาการเลื่อนขั้นในราชสำนักหรือสถานที่ราชการ หรือแม้แต่งานฉลองการเลื่อนขั้นของบุคคลทั่วไป การแจกเหรียญตราและเครื่องราชอิศริยาภรณ์ บำเน็จความชอบในราชการ การแจกปริญญาการแจกรางวัลต่างๆ เช่น Nobel Price ,Prince Mahidol Award, World Scout Medal ..etc ก็กระทำได้เพื่อให้รางวัลและปริญญานั้นสถิตเสถียรเป็นศรีแก่ผู้ได้รับยาวนานที่สุดจนหาไม่ หรือการประชุมองค์การสหประชาชาติในวาระพิเศษ การประชุมผู้นำระดับโลก รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา งานที่แสวงหาอำนาจบารมี การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดร้าน และกิจการงานมงคลทั้งปวง ***ที่บอกว่าฤกษ์นี้สามัญชนใช้ไม่ได้ อันนี้ต้องบอกว่าไม่จริง และไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ คำว่าราชาฤกษ์ แปลว่า **ฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าฤกษ์ทั้งหลาย เป็นราชาแห่งฤกษ์ทั้งปวงไม่ใช่ฤกษ์ใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดินหรือราชวงศ์ ใครๆก็ใช้ได้ไม่จำกัดชนชั้นวรรณะใดใด ฤกษ์นี้มีดาวพระเสาร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ แสดงว่าเป็นฤกษ์ที่จะให้ความมั่นคงยืนนานมากที่สุดกว่าฤกษ์ใดๆ และหากเป็นกิจการที่ข้องกับงานอุตสาหรรมขนาดใหญ่ โรงงานผลิต การก่อสร้าง งานเชิงสาธารณะ งานราชการ รัฐวิสาหกิจ ก็จะให้ผลดีมากเป็นพิเศษ **อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปคนไทยไม่นิยมใช้ฤกษ์นี้ในการตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ด้วยคิดไปเองว่าบารมีไม่ถึงซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาหากจะใช้หรืออาจจะเพราะไม่ตรงกับสาขาอาชีพที่ตนต้องการจะใช้ฤกษ์นี้เพราะเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มเว้นแต่ว่าจะหาฤกษ์อื่นมาแทนไม่ได้หรือมีความเร่งรีบก็จะอนุโลมใช้ฤกษ์นี้โดยทั่วกัน ก็ให้เป็นไปตามความสะดวก

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจวาสนาสูง มีบารมีสูงส่งกว่าคนทั่วไป ดุจเทพลงมาเกิด(เปรียบเปรย) มีออร่าเปล่งประกายพวยพุ่ง เหรียบหรู ภูมิฐาน ดูดีมีชาติตระกูล พูดจาหนักแน่น น้ำเสียงฟังชัด เด่นดัง ออกงานสังคมจะโดดเด่นกว่าฤกษ์อื่นๆ ปรารถนาสิ่งใดก็มักได้มาอย่างง่ายๆ มีข้าบริวารรายล้อมรับใช้ซ้ายขวามิได้ขาดเดินตามเป็นกระบวนยาวเหยี่ยดเป็นหางว่าวดูแล้วให้ชวนตะลึงถึงบารมี หากใช้ฤกษ์นี้ให้เป็นประโยชน์ต่อกิจการบ้านเมืองหรืองานส่วนรวมหรือการสาธารณะกุศลเพื่อคนทุกข์ยากจะเสริมอำนาจบารมียิ่งๆขึ้นไป ด้วยกรรมดีที่ส่งผลดีต่อส่วนรวมนั่นยิ่งใหญ่ที่สุด(มีของดีก็ใช้สะมิให้เสีย) หรือต่อให้เป็นเพียงคนสามัญธรรมดาที่เกิดในฤกษ์นี้เวลาจะทำอะไรหรือเดินไปใหนก็จะมีออร่ารังศีราศีมากกว่ากว่าคนทั่วไป ผู้คนเกรงขามในลักษณะเกรงใจ และคอยช่วยเหลือบริการตลอดหากร้องขอโดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอะไรมากมาย จะอายุยืนมากกว่าคนทั่วไป สุขภาพแข็งแรง แบบผู้เฒ่าแม่เฒ่าที่ไม่เสื่อมราศีมีรัศมีผุดผ่อง เจ็บป่วยไม่นานด้วยมีอำนาจบารมีมากล้น พูดอะไรก็มีคนคล้อยตามได้ง่าย มีคนคอยช่วยเหลือตลอดเวลา ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โต มีบริวารดี ลูกน้องเชื่อฟังตลอด มีคนคอยช่วยเหลือมิได้ขาด หากเป็นข้าราชการจะได้เป็นอธิบดี ข้าราชการชั้นสูง(ถ้าฝันจะไปให้ถึง) หรือถ้าทำอะไรก็จะได้เป็นผู้นำตลอดในทุกๆสถานการณ์ เช่นเกียวกับ ภูมิปาโลฤกษ์แต่จะลำบากน้อยกว่ามาก ทำงานอาชีพใดก็มักได้เป็นหัวหน้างานในทุกๆสาขาอาชีพ(ถ้ามีความพยายาม คิดดี ทำดี โดยเฉพาะงานส่วนรวมจะส่งผลดีเป็นพิเศษ)

9. สมโณฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย(ภารตะ)เรียกว่า ปรมมิตระ

สมโณฤกษ์ แปลว่า ความสุข ความสงบ  ความร่มเย็นเป็นสุข นักบวช นักสอนศาสนา มีดาวพระพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับงานด้านการศาสนาทุกๆอย่างทุกๆศาสนาบนโลกใบนี้ การทำพิธีกรรมทางศาสนาทั่วไปหรือถ้าเป็นไสยศาสตร์ก็จะเป็นไสยขาวแบบเบาๆ บริสุทธิ์ ไม่มีราคิน ไร้กิเลส ไม่มีความลามกรักใคร่มาเกี่ยวข้อง ทำเพื่อส่วนรวมจนวันตาย จนวาระสุดท้ายของชีวิต เปรียบประดุจ พ่อพระ แม่พระ หรืองานทางพวกนักบวชก็ว่าได้ เช่น การบวชเรียนในทุกๆศาสนา การทำขวัญนาค การอุปสมบท พีธีหล่อพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ การหล่อเทวรูปก็กระทำได้ หรือศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาก็ดีไม่น้อยเพราะจิตจะสงบไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าในทางโลกก็จะเหมาะกับการเข้ารับการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆเพราะจิตจะสงบกว่าฤกษ์อื่นๆ และรวมถึงการกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ  ตั้งศาลพระภูมิ สร้างศาสนสถาน เทวาลัย เทวสถาน ผูกข้อมือ สู่ขวัญ โกนผมไฟ งานประเพณีท้องถิ่นทางศาสนา ฤกษ์นี้มีดาวพระพุธเป็นดาวเจ้าฤกษ์ กิจการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การสื่อสาร การภาษา การขนส่งมวลชน กิจการที่เกี่ยวกับงานด้านเอกสาร งานโรงเรียน งานในมหาวิทยาลัย ตำราหนังสือ การตรวจทานอักขระ การจารึกใบลาน กิจการทุกอย่างที่เกิดภายในศาสนสถาน งานสัมมนา งานวิจัย งานด้านจิตวิทยา การใช้พลังจิต Psychic Medium เพื่อช่วยส่วนรวม ก็จะให้ผลดีเป็นพิเศษ

ผู้ที่เกิดในฤกษ์นี้ เป็นคนมีอำนาจมากเช่นกันแต่จะดูนิ่ง แต่งตัวสะอาดแบบเรียบๆแบบภูมิฐาน มีสไตล์แบบขรึม ๆ มีอ่อร่าแบบบางๆ แต่กว้าง จะดูโบราณเรียบหรูย้อนยุคนิดๆ Vintage Classic หน่อยๆ ไม่ชอบบังคับข่มเหงใคร ไม่ชอบตั้งกฏระเบียบจนไร้สาระ ไม่ไว้ผมทรงประหลาดแบบเกรียนๆ ไม่เคยรังเกียจใครๆ มีความเมตตาปราณีต่อทุกๆคนมากกว่าฤกษ์อื่นๆ ชอบให้ของขวัญรางวัลปลอบใจแก่คนอื่นๆ จะมีบุคลิคแบบต้อนรับหมดทุกคน(ถ้ามาดี) ไม่พูดเยอะไม่ต่อยหนักแบบฤกษ์อื่นๆแต่จะใช้จิตอันสงบหยุดความเคลื่อนไหว เข้าทำนอง นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว หรือจะเรียกว่า Psycho ใส่แบบนิ่งๆจนอีกฝ่ายกลัวหนีไปเอง เพราะจะออกแนวพ่อพระ แม่พระ กลับชาติมาเกิด ดูสงบ จิตใตผ่องใส มีจิตแรงกล้า สามารถทำสมาธิได้ดี ได้ยาวนานกว่าคนทั่วไป สามารถระลึกชาติได้(ในบางราย) พูดได้หลายภาษาเช่นเดียวกับเทศาตรีฤกษ์ แต่จะออกแนว ภาษาโบราณที่คนทั่วไปมิอาจเข้าถึงหรือภาษาที่เขาเลิกใช้ไปนานแล้วหรือไม่มีคนพูดแล้วบนโลกนี้แต่อยากจะเรียนอยากจะพูดหรือภาษาทางศาสนา เช่น เทวนาครี หรือภาษาโรมันละติน ฯลฯ มักเกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิดใหม่ มีความจริงใจเป็นที่สุด รักเดียวใจเดียว มีคู่คนเดียวจนวันตาย แต่งงานครั้งเดียว ไม่เคยนอกใจแฟน ถ้ามีแฟนก็คือรักแรกพบตั้งแต่หนุ่มน้อยสาวน้อย แต่งงานอยู่กันไปจนวันตาย หรือในบางรายอาจจะต้องโสดสนิทตลอดชั่วกาลปาวสาน(หากต้องการให้พลังจิตของตนกล้าแกร่ง คือไปบวชเถอะ) มีวาทะปฏิภาณดีเป็นเลิศ เฉลียวฉลาด เรียนรู้เร็ว มีการศึกษาสูง มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ รักการถ่ายภาพ ชื่นชมงานศิลปะในทุกๆสาขา ชอบศึกษาปรัชญา ชอบศึกษาหาความรู้ตลอดชีวิต ไม่สนใจในเรืองคู่ครองและเรื่องของคนอื่น ไม่สนใจทางโลก(ในบางราย) สนใจแต่ศาสนา สิ่งลี้ลับ สิ่งเหนือธรรมชาติ ชอบทำบุญกุศล มีจิตวิทยาสูงมากในการจูงใจคน

อย่างไรก็ตาม คำอธิบายข้างต้นเป็นเพียงแนวทางการนำฤกษ์ไปใช้งานเท่านั้น ในความเป็นจริงต้องตรวจสอบรายละเอียดดวงฤกษ์นั้นอีกมากจึงจะสามารถกำหนดฤกษ์ทำการให้กิจการใดกิจการหนึ่งได้ หรือแม้แต่ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างภพต่าง ๆ ตลอดจนความเป็นคุณโทษของดาวก่อนพยากรณ์ชีวิต

 

ลักษณะคนสงบ 16 อย่าง บุคคลที่มีความสงบสำรวมมักเป็นผู้ที่มีแต่คนอยากอยู่ใกล้ เพราะอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่มีความทุกข์ ไม่มีพลังงานด้านลบออกมาจากตัวตนของคนผู้นั้น

#ลักษณะคนสงบ 16 อย่าง
บุคคลที่มีความสงบสำรวมมักเป็นผู้ที่มีแต่คนอยากอยู่ใกล้ เพราะอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่มีความทุกข์ ไม่มีพลังงานด้านลบออกมาจากตัวตนของคนผู้นั้น  %e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99_%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%97
1. เป็นผู้ไม่ฉุนเฉียว
2. เป็นผู้ไม่หวาดหวั่น
3. เป็นผู้ไม่โอ้อวด
4. เป็นผู้ไม่ก่อความรำคาญ
5. เป็นผู้พูดด้วยปัญญา
6. เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน
7. เป็นผู้มีวาจาอันสำรวมแล้ว
8. เป็นผู้วางตัวเป็นกลาง
9. เป็นผู้มีสติทุกเมื่อ
10. เป็นผู้ไม่ถือตัวว่าเสมอกับเขา
11. เป็นผู้ไม่ถือตัวว่าวิเศษกว่าเขา
12. เป็นผู้ไม่ถือตัวว่าต่ำกว่าเขา
13. เป็นผู้ไม่มีโทษอันทำให้มืดมัวดุจฝ้า
14. เป็นผู้ไม่ยึดถือสิ่งใดๆ ในโลกว่าเป็นของตน
15. เป็นผู้ไม่เศร้าโศกเพราะสัตว์และสังขารที่เสื่อมไป
16. เป็นผู้ไม่ถึงอคติในธรรมทั้งหลาย

โอวาทหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

มงคล ๓๘ ประการ: มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ

มงคล ๓๘ ประการ: มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ

ในมงคลสูตรกล่าวว่า พระอานนท์ได้เล่าว่าพระองค์ได้ฟังมาว่า เมื่อพระพุทธเจ้าประทับ ณ เชตวันมหาวิหาร ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวายพระพุทธเจ้า ณ กรุงสาวัตถี แคว้นโกศลเทวดาองค์หนึ่ง ได้มาเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อกราบทูลอาราธนาให้เทศน์โปรดมนุษย์และเทวดาที่หวังจะได้ทราบว่าสิ่งใดคือมงคล สิ่งใดคือเหตุแห่งความเจริญก้าวหน้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศน์มงคล 38 ประการเป็นคาถารวม 10 คาถา และคาถาสรุปอีก 1 คาถา
มงคล 38  ประการนี่เรียงลำดับเป็นหมวดหมู่ ให้หลักการดำเนินชีวิตที่จะทำให้เราบรรลุถึงมงคลคือ ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต สูงขึ้นทุกที จนถึงขั้นสูงสุด อาจแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอน คือ
1. ในช่วงปฐมวัย  เป็นระยะเตรียมตัวที่จะดำเนินชีวิต ใช้มงคลสูตร 5 ประการ ในการวางรากฐาน คือ 1. ไม่คบคนพาล    2.  คบบัณฑิต   3. บูชาบุคคลและสิ่งที่เนื่องด้วยบุคคลที่ควรบูชา คือ  พ่อแม่  ครูอาจารย์  พระรัตนตรัย    4. อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม   5. สะสมบุญ มีนโยบายใหญ่ในการดำเนินชีวิตเป็นข้อ 6  คือ ตั้งตนไว้ชอบหรือประพฤติให้สมควรแก่สภาพของตน และมงคลข้อ 7 ถึง ข้อ 10 กล่าวถึงการศึกษาเพื่อศึกษาอบรม คือ 7. สดับรับฟังมาก    8. มีศิลปะหรือรู้จักนำความรู้ไปทำกิจการงานให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นได้  9. วินัยกำกับตน คือ ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ในทางที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม 10.  มีวาจาสุภาษิตคือกล่าวความจริง กล่าวสิ่งมีประโยชน์ และใช้ถ้อยคำสุภาพ
2. ช่วงมัชฌิมวัย  เริ่มรับผิดชอบขั้นมูลฐาน คือ 11. บำรุงมารดาบิดา  12.  สงเคราะห์บุตร13.  สงเคราะห์ภรรยา  14.  การงานไม่คั่งค้าง ทำหน้าที่เกี่ยวกับสังคม คือ 15.  บำเพ็ญทาน รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำประโยชน์ส่วนร่วม 16. ประพฤติเป็นธรรม คือมีความเป็นธรรม ตั้งใจทำดีต่อกัน สนองตอบกันอย่างยุติธรรมแก่ตนและผู้อื่น รู้จักขอโทษและให้อภัย ไม่เข้าข้างตนเอง 17.  สงเคราะห์ญาติ  18. ประกอบการงานที่ไม่เป็นโทษสัมมาอาชวะป้องกันตนมิให้ตกสู่อบาย โดย 19. งดเว้นกระทำบาป  20.  ไม่ดื่มสุรา  21. ไม่ประมาทในธรรม คือ เพียรเว้นสิ่งที่ควรเว้น ประพฤติสิ่งที่ควรประพฤติ ละบาป บำเพ็ญบุญอย่างสม่ำเสมอ อบรมคุณธรรมที่สูงขึ้นไป คือ 22. มีสัมมาคารวะ  รู้จักเคารพอ่อนน้อมทั้งกาย วาจาใจในผู้สมความเคารพ 23. ไม่เย่อหยิ่ง ไม่กระด้าง จองหอง หรือให้เจียมตัวนั่นเอง 24. มีความสันโดษพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ 25. รู้คุณท่าน 26. ฟังธรรมตามกาล  ทำตนให้เป็นที่รองรับธรรมขั้นสูง คือ 27. มีขันติ  28. ว่าง่าย ไม่ถือตัว 29. เข้าหาสมณะ 30. สนทนาธรรมตามกาล
3. ช่วงปัจฉิมวัย  มีหนทางปฏิบัติ คือ 31. เพียรบำเพ็ญตบะ  เผาบาป 32. ประพฤติพรหมจรรย์ 33.  เห็นอริยสัจ และ 34. ทำพระนิพพานให้แจ้งผลที่ได้รับคือ 35. จิตไม่หวั่นไหว เมื่อโลกธรรมมากระทบ  36. จิตไม่โศก 37. จิตไม่มีมลทิน 38. จิตเกษม ปลอดโปร่งจากกิเลส ปราศจากเครื่องตรึงไว้ในภพ หมดทุกข์ หมดภัยด้วยประการทั้งปวง อานิสงส์ที่ผู้ประพฤติตามมงคล 38 ประการได้รับคือ ถึงซึ่งความสวัสดี ความเจริญก้าวหน้าในที่ทุกสถาน


แนวคิดสำคัญ
แนวความคิดสำคัญของมงคลสูตร คือ เหตุแห่งความเจริญก้าวหน้าอยู่ที่ความประพฤติของตนและการฝึกอบรมจิตใจตนให้ถูกต้องตามหลักพุทธธรรม มิใช่อยู่ที่ผู้อื่น สิ่งอื่น หรือวัตถุโชคลางใดๆที่มาจากภายนอก


ค่านิยม 
มงคลทั้ง 38 ประการ ล้วนเป็นค่านิยมทางพระพุทธศาสนา ค่านิยมสูงสุดทางพระพุทธศาสนาก็คือ นิพพาน การดับพร้อม ไม่เกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป

มงคลทั้ง 38 ประการ เรียงจากข้อที่ปฏิบัติง่ายไปสู่ข้อที่ปฏิบัติยากขึ้นตามลำดับ ดังนี้
1.ไม่คบคนพาล
2. ให้คบบัณฑิต
3. บูชาคนที่ควรบูชา
4. อยู่ในประเทศอันสมควร
5. เคยทำบุญไว้ในกาลก่อน
6. ตั้งต้นไว้ชอบ
7. สดับตรับฟังมา
8. มีศิลปะ
9. มีวินัย
10. มีวาจาเป็นสุภาษิต
11. บำรุงบิดามารดา
12. สงเคราะห์บุตร
13. สงเคราะห์ภรรยา
14. การงานไม่คั่งค้าง
15. ทำทาน
16. ประพฤติธรรม
17. สงเคราะห์ญาติ
18. ประกอบการงานที่ไม่มีโทษ
19. ละเว้นการทำบาป
20. ไม่ดื่มสุรา
21. ไม่ประมาทในธรรม
22. รู้จักเคารพมีสัมมาคารวะ
23. รู้จักเจียมตัวไม่กระด้างจองหอง
24. ยินดีในของของตน
25. รู้คุณท่าน
26. ฟังธรรมตามกาล
27. มีความอดทน
28. ว่าง่าย
29. เห็นสมณะ
30. สนทนาธรรมตามกาล
31. บำเพ็ญตบะ
32. ประพฤติพรหมจรรย์
33. เห็นอริยสัจ
34. ทำพระนิพพานให้แจ้ง
35. จิตไม่หวั่นไหว
36. จิตไม่เศร้าโศก
37. จิตปราศจากมลทิน
38. จิตปลอดโปร่งจากกิเลส

อาจารย์กฤตพล นำโหราศาสตร์เสิบลัคนา ข้ารับรางวัล “นาคเณศ” ประจำปี 2566 สภาสื่อมวลชนไทย (องค์กรเครือข่ายสื่อภาคประชาชน) โดย ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธาน ถือฤกษ์ดีจัดงานประกาศรางวัลเกียรติคุณ “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖ มหาเทพพิฆเนศวร ปางนาคปรก (โบราณ) ๗ เศียร พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพเจ้าแห่งความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖ โดยได้รับพิจารณาข้อมูลข่าวสารการยอมรับและเผยแพร่จากสมาชิกและสื่อมวลชน ประชาชนส่วนรวมและสังคม องค์กร สมาคม มูลนิธิ ชมรม เครือข่ายมวลชนในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้พิจารณาเสนอชื่อ ประวัติ ผ ลงาน สรรหา คัดเลือกบุคคลและองค์กร หน่วยงานข้าราชการ และนักธุรกิจรวมถึงผู้ประกอบกิจสื่อสารมวลชนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งบุคคลวงการสื่อสารมวลชน เพื่อเข้ารับรางวัลเกียรติคุณในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ยกย่อง ชมเชย เชิดชู สรรเสริญและให้กำลังใจให้เป็นบุคคลซึ่งสามารถดำรงตนประกอบหน้าที่ การงาน จนประสบความสำเร็จหรือมีผลงานและปฏิบัติตนอันเป็นประโยชน์ที่ดีจนเป็นที่ยอมรับของสังคมและต่อวัฒนธรรมอันดีงามมีผลงานก่อประโยชน์สร้างสรรค์สังคมที่ดี โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมเจ้าทิฆัมพร ยุคล เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีมอบรางวัล และมีผู้เข้ารับรางวัลต่างๆ ดังนี้ อาจารย์ กฤตพล แสงซื่อ รางวัล บุคคลต้นแบบ ผู้สร้างแรงบันดาลใจการดำเนินชีวิต สาขาโหราศาสตร์ทับลัคนา www.10luc.com
อาจารย์กฤตพล นำโหราศาสตร์เสิบลัคนา ข้ารับรางวัล “นาคเณศ” ประจำปี 2566 สภาสื่อมวลชนไทย (องค์กรเครือข่ายสื่อภาคประชาชน) โดย ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธาน ถือฤกษ์ดีจัดงานประกาศรางวัลเกียรติคุณ “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖ มหาเทพพิฆเนศวร ปางนาคปรก (โบราณ) ๗ เศียร พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพเจ้าแห่งความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน “รางวัลแห่งความสำเร็จ บุคคลตัวอย่างความสำเร็จ และผู้เป็นแบบอย่างควรค่าแห่งสังคม” นาคเณศ NAGANES ประจำปี ๒๕๖๖
โดยได้รับพิจารณาข้อมูลข่าวสารการยอมรับและเผยแพร่จากสมาชิกและสื่อมวลชน ประชาชนส่วนรวมและสังคม องค์กร สมาคม มูลนิธิ ชมรม เครือข่ายมวลชนในสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้พิจารณาเสนอชื่อ ประวัติ ผ
ลงาน สรรหา คัดเลือกบุคคลและองค์กร หน่วยงานข้าราชการ และนักธุรกิจรวมถึงผู้ประกอบกิจสื่อสารมวลชนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งบุคคลวงการสื่อสารมวลชน เพื่อเข้ารับรางวัลเกียรติคุณในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ยกย่อง ชมเชย เชิดชู สรรเสริญและให้กำลังใจให้เป็นบุคคลซึ่งสามารถดำรงตนประกอบหน้าที่ การงาน จนประสบความสำเร็จหรือมีผลงานและปฏิบัติตนอันเป็นประโยชน์ที่ดีจนเป็นที่ยอมรับของสังคมและต่อวัฒนธรรมอันดีงามมีผลงานก่อประโยชน์สร้างสรรค์สังคมที่ดี
โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมเจ้าทิฆัมพร ยุคล เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีมอบรางวัล และมีผู้เข้ารับรางวัลต่างๆ ดังนี้ อาจารย์ กฤตพล แสงซื่อ รางวัล บุคคลต้นแบบ ผู้สร้างแรงบันดาลใจการดำเนินชีวิต สาขาโหราศาสตร์ทับลัคนา
www.10luc.com