โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๖ ดวงทักษา

บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ  เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ  ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา
บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา

ดูดวง โหราศาสตร์ไทย 10 ลัคนา ดูดวง ไพ่ยิปซี ดูดวงทางโทรศัพท์ การงาน การเงิน โชคลาภ ความรัก แก้เคล็ดเสริมดวง ตั้งชื่อเด็กแรกเกิด สามารถดูออนไลน์ได้ทั่วโลก

ดวงทักษานี้ในหลักการพยากรณ์ ได้เพิ่มคาถากำกับไว้ทั้งหมด 8 คำซึ่งท่านต้องจำได้ และเข้าใจความหมายของแต่ละบท ซึ่งมีดังนี้

v    บริวาร หมายถึงคนรอบข้างที่เราต้องดูแลรับผิดชอบ ภรรยา คนรับใช้ บุตรหลาน บิดามารดาและทุกคนในบ้าน ถ้าที่ทำงานก็คือคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา

v    อายุ หมายถึงการเจ็บป่วย สุขภาพ อายุยืนหรือไม่ สุขภาพดีหรือไม่ดี พิจารณาจากคาถาตัวนี้

v    เดช หมายถึงความน่ายำเกรง น่าเคารพ น่าเชื่อถือ

v    ศรี หมายถึงความดี ความมีโชค และมีสิ่งที่ดี ๆ

v    มูลละ หมายถึงที่อยู่อาศัย การเดินทาง ทรัพย์มรดก

v    อุตสาหะ ความหมั่นเพียร ความขยันขันแข็ง

v    มนตรี คือผู้คอยช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำจุน

v    กาลกิณี ความไม่ดีหรือความชั่วทั้งปวง ความอับโชค

 

คาถาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเรียงกันไปตามลำดับ สลับกันไม่ได้เลย แต่ในการทายหรือพยากรณ์จะยกเอาคาถาตัวใดตัวหนึ่งมากล่าวก็ย่อมทำได้ ที่นิยมกันเป็นหลักคือ กาลีหรือกาลกิณี เพราะเป็นคาถาตัวที่ให้โทษหนักและรุนแรง ส่วนศรี มนตรี เดช ให้คุณตามลำดับมากน้อย นอกนั้นเป็นกลาง ๆ คือจะร้ายหรือดีก็ไม่มากนัก เป็นไปตามประเภทและกำลังของดาวแต่ละดาว

 

การนำเอาดวงทักษามาพยากรณ์มีอยู่ 2 แบบ คือดวงเดิมและดวงจร ดวงเดิมจะเริ่มต้นกันที่วันเกิดของแต่ละคน เช่นคนเกิดวันจันทร์ ก็เริ่มนับที่ดาวจันทร์ ๒ เป็นบริวาร ต่อจากนั้นก็นับอายุที่ดาวอังคาร ๓ คือวนตามเข็มนาฬิกานั่นเอง ดูตัวอย่างดังนี้

v    เกิดวันจันทร์ ๒ เป็นบริวาร ๓ เป็นอายุ ๔ เป็นเดช ๗ เป็นศรี ๕ เป็นมูลละ ๘ อุตสาหะ ๖ เป็นมนตรี และ ๑ เป็นกาลกิณี

v    เกิดวันอังคาร ๓ เป็นบริวาร ๔ เป็นอายุ ๗ เป็นเดช ๕ เป็นศรี ๘ เป็นมูลละ ๖ เป็นอุตสาหะ ๑ เป็นมนตรี ๒ เป็นกาลกิณี

v    เกิดวันพุธ ๔ เป็นบริวาร ๗ เป็นอายุ ๕ เป็นเดช ๘ เป็นศรี ๖ เป็นมูลละ ๑ เป็นอุตสาหะ ๒ เป็น มนตรี ๓ กาลกิณี

v    เกิดวันพฤหัสบดี ๕ เป็นบริวาร ๘ เป็นอายุ ๖ เป็นเดช ๑ เป็นศรี ๒ เป็นมูลละ ๓ เป็นอุตสาหะ ๔ เป็นมนตรี ๗ เป็นกาลกิณี

v    เกิดวันศุกร์ ๖ เป็นบริวาร ๑ เป็นอายุ ๒ เป็นเดช ๓ เป็นศรี ๔ เป็นมูลละ ๗ เป็นอุตสาหะ ๕ เป็นมนตรี ๘ เป็นกาลกิณี

v    เกิดวันเสาร์ ๗ เป็นบริวาร ๕ เป็นอายุ ๘ เป็นเดช ๖ เป็นศรี ๑ เป็นมูลละ ๒ เป็นอุตสาหะ ๓ เป็นมนตรี ๔ เป็นกาลกิณี

v    เกิดวันอาทิตย์ ๑ เป็นบริวาร ๒ เป็นอายุ ๓ เป็นเดช ๔ เป็นศรี ๗ เป็นมูลละ ๕ อุตสาหะ ๘ เป็นมนตรี ๖ เป็นกาลกิณี

 

การทายดวงทักษาเดิม

การทายหรือพยากรณ์ดวงทักษาเดิมเริ่มกันที่วันเกิดเป็นสำคัญ คือเมื่อนับกันตามวันเกิดแล้วดาวอะไรเป็นกาลกิณี ถือว่าดาวนั้นให้โทษ และการจะให้โทษในเรื่องอะไร ก็เกี่ยวกับดาวนั้น ๆ เป็นเกณฑ์ ในส่วนของดาวที่ให้คุณก็เช่นเดียวกัน ดาวที่ให้คุณมากคือดาวศรี สำหรับดาวที่เป็นมนตรี และเดชให้คุณรองลงไป นอกนั้นเป็นพวกที่ให้คุณหรือให้โทษกลาง ๆ เช่น

v    เช่นคนเกิดวันจันทร์ ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นกาลกิณี การจะได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศหรือตำแหน่งหน้าที่การงานย่อมยากและมักมีอุปสรรค ดาวเสาร์ ๗ เป็นศรีก็ย่อมดีทางด้านหลักฐานทรัพย์สิน โทษทุกข์ก็เบาบางไป

v    คนเกิดวันอังคาร ดาวจันทร์ ๒ เป็นกาลกิณี ทำให้ขาดความมีเสน่ห์ในความงามหรือความประทับใจ ดาวพฤหัสบดี ๕ เป็นศรี มักได้รับการส่งเสริมจากผู้บังคับบัญชาหรือได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ ความรู้และคุณธรรมดี

v    คนเกิดวันพุธ ดาวอังคาร ๓ เป็นกาลกิณี ความขยันขันแข็งไม่ค่อยมีคุณค่า เหนื่อยแล้วไม่คุ้ม และยังทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายดาวราหู ๘ เป็นศรี น้ำใจกว้างขวาง ตรงไปตรงมา ดีทางด้านต่างประเทศ การเสี่ยงโชคดี มักมีการได้โชคลาภอย่างไม่คาดคิด

v    คนเกิดวันพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ๗ เป็นกาลกิณีย่อมมีความเสียหาย มักมีทุกข์มากกว่าปกติ หลักทรัพย์ไม่มั่นคง มักมีการบาดเจ็บ ผิดหวัง ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นศรี เกียรติยศชื่อเสียงดี การก้าวหน้าในตำแหน่งการงานราบรื่น มักเป็นที่นิยมแก่คนทั่วไป

v    คนเกิดวันศุกร์ ดาวราหู ๘ เป็นกาลกิณีเสียด้านการต่างประเทศ ถ้าทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศจะมีอุปสรรคมาก การเสี่ยงโชคไม่ดี ดาวอังคาร ๓ เป็นศรีขยันขันแข็งดี เอาจริงเอาจังการงานอดทนไม่ท้อถอยง่าย ๆ  ไม่ค่อยมีอุบัติเหตุรุนแรง

v    คนเกิดวันเสาร์ ดาวพุธ ๔ เป็นกาลกิณี เสียเรื่องการพูด เป็นคนพูดตรง แข็งกร้าว เสียด้านการติดต่อประชาสัมพันธ์ การสื่อสาร ดาวศุกร์ ๖ เป็นศรีการเงินดี ความรักดี ชอบการบันเทิงเริงรมย์ มักมีลาภทางด้านการเงิน

v    คนเกิดวันอาทิตย์ ดาวศุกร์ ๖ เป็นกาลกิณี ความรักไม่ค่อยหวานชื่นการเงินมักใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รายจ่ายมากกว่ารายรับ ความเป็นปึกแผ่นด้านการเงินช้า ชีวิตรักสะดุดไม่ราบรื่น ดาวพุธ ๔ เป็นศรี พูดจาดีมีคนเชื่อถือ ดีทางด้านการติต่อค้าขาย เป็นนักพูดนักเขียนที่ได้รับการยกย่อง

v    เนื่องจากคนเกิดวันราหูไม่มี ดังนั้นดาวพฤหัสบดี ๕ จึงไม่เป็นกาลกิณีเดิม และดาวจันทร์ ๒ ก็ไม่เป็นศรีเดิมให้กับใคร วันมีเพียง ๗ วัน ไม่เคยได้ยินว่ามีวันราหู ๘ ไม่เคยเห็นว่าสัปดาห์หนึ่งมี ๘ วันตามที่โหราจารย์บางท่านนิยมกัน

 

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการทายหรือพยากรณ์ที่จับเอาเฉพาะพื้นฐาน ศรีและกาลกิณีเท่านั้น  สำหรับดาวที่อยู่ในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น  บริวาร อายุ เดช มูลละ อุตสาหะ มนตรี ก็พยากรณ์ไปในแนวเดียวกัน และยังยึดความหมายของดาวแต่ละดาวเป็นแนวทาง

 

 

การทายดวงทักษาจร

การทายหรือพยากรณ์ดวงทักษาจร มีอยู่ 2 แบบ คือทายจรไปตามจำนวนอายุย่างของเจ้าชะตาแต่ละคน ซึ่งเรียกว่าจรปี และยังมีการทายจรเดือนอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเริ่มจากเดือนที่เกิด นับต่อจากจุดทายจรปีนั่นเอง แต่ในตอนนี้จะกล่าวถึงการทายหรือพยากรณ์จรปีก่อน การทายจรในดวงทักษาให้ถืออายุย่างเป็นหลักการทายจรปี เช่นคนเกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2479 อายุจะเต็มในวันที่ 13 พฤศจิกายน ของทุกปี พอวันที่ 14 พฤศจิกายน จะถือเป็นอายุย่าง ตามที่สมมุตินี้ ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2548 เท่ากับอายุเต็ม 69 พอวันที่ 14 เดือนเดียวกันอายุย่าง 70 ปีดังนี้เป็นต้น

 

การทายหรือพยากรณ์จรไปตามอายุของเจ้าชะตานี้ เริ่มต้นกันที่ทักษาเดิม คือคนเกิดวันอะไร มีดาวอะไรเป็นบริวารเดิม นับอายุ 1-10-19-28-37-46-55-64-73-82 ขวบปีที่ตำแหน่งดาวบริวารเดิม แล้วนับปีต่อไปที่ช่องถัดไป ปีละช่อง การนับต้องวนไปตามเข็มนาฬิกา แต่ต้องจำไว้เสมอว่า เมื่อนับมาถึงช่องอาทิตย์ ๑ พอปีต่อไปให้นับเข้าช่องกลางก่อนเสมอ แล้วจึงขึ้นไปที่ช่องจันทร์ ๒ ถ้าอายุตกช่องกลางนี้พอดี ให้ใช้พฤหัสบดี ๕ เป็นบริวาร ราหู ๘ เป็นอายุ ศุกร์ ๖ เป็นเดช อาทิตย์ ๑ เป็นศรี จันทร์ ๒ เป็นมูลละ อังคาร ๓ เป็นอุตสาหะ พุธ ๔ เป็นมนตรี เสาร์ ๗ เป็นกาลกิณี ต่อจากนั้นจึงนับอายุจรในปีถัดไปที่จันทร์ ๒ อังคาร ๓ พุธ ๔ เสาร์ ๗ พฤหัสบดี ๕ ราหู ๘ ศุกร์ ๖ อาทิตย์ ๑ อายุจรในปีถัดไปก็นับที่อังคาร ๓ ปีถัดไปนับที่ พุธ ๔ ปีถัดไปนับที่เสาร์ ๗ ปีถัดไปที่ พฤหัสบดี ๕ ปีถัดไปที่ราหู ๘ ปีถัดไปที่ ศุกร์ ๖ ปีถัดไปที่ อาทิตย์ ๑ ปีถัดไปจึงลงไปตากลางอีก ทำดังนี้วนกันไปจนถึงปีที่ต้องการพยากรณ์ ซึ่งโดยมากก็แค่ปีที่เจ้าชะตามาให้พยากรณ์ เรียกว่าจรปัจจุบัน ถ้าล่วงหน้าไปจะกี่ปีก็ตามเรียกว่าการทายจรอนาคต แต่การทายที่สำคัญมากและผิดไม่ได้คือการทายย้อนหลัง การทายย้อนหลังจะกี่ปีก็ตามเรียกว่าทายจรอดีต การทายอดีตถูกต้อง นอกจากจะสร้างความเชื่อถือที่ดีแล้วยังเป็นการตรวจดวงชะตาว่าถูกต้องหรือไม่ด้วย ดังนั้นจึงใคร่ขอเตือนบรรดานักพยากรณ์ทั้งหลายว่าควรรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากท่านทายผิดมันไม่ได้เสียที่ตัวท่านคนเดียว แต่มันจะโยงไปถึงครูบาอาจารย์ด้วยโดยไม่ตั้งใจเสมอ

 

คำพยากรณ์จรในดวงทักษา

การพยากรณ์จรในดวงทักษา ก็ยังยึดหลักของดวงเดิม ต่างกันบ้างก็ตรงที่นอกจากถือความหมายของดาวแต่ละดาวเป็นหลักการทายแล้ว ยังใช้เรือนทักษาที่ดาวนั้น ๆ ครองด้วย เช่นคนที่เกิดวันอาทิตย์ ย่อมได้ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นบริวารเดิม และดาวอาทิตย์ ๑ จะเป็นดาวบริวารเดิมอยู่จนอายุ 1 ขวบเต็ม พออายุจรย่าง 2-11-20-29-38-47-56-65-74-83 ปีก็จะเข้าตากลาง ใช้พฤหัสบดี ๕ เป็นบริวารจร ราหู ๘ เป็นอายุจร ศุกร์ ๖ เป็นเดชจร อาทิตย์ ๑ เป็นศรีจรจันทร์ ๒ เป็นมูลละจร อังคาร ๓ เป็นอุตสาหะจร พุธ ๔ เป็นมนตรีจร เสาร์เป็นกาลกิณีจร พออายุจรย่าง 3-12-21-30-39-48-57-66-75-84 ปี ก็จะขึ้นไปที่ช่องจันทร์ ๒ จันทร์ ๒ ก็จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 4-13-22-31-40-49-58-67-76-85 ปี จะไปที่ช่องอังคาร ๓ อังคาร ๓ ก็จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 5-14-23-32-41-50-59-68-77-86 ปี จะไปที่ช่องพุธ ๔ พุธ ๔ ก็จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 6-15-24-33-42-51-60-69-78-87 ปี ก็จะไปที่ช่องเสาร์ ๗ เสาร์ ๗ จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 7-16-25-34-43-52-61-70-79-88 ปี จะไปที่ช่องพฤหัสบดี ๕ พฤหัสบดี ๕ จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 8-17-26-35-44-53-62-71-80-89 ปี จะไปที่ช่องราหู ๘ ราหู ๘ จะเป็นบริวารจร พออายุจรย่าง 9-18-27-36-45-54-63-72-81-90 ปี จะไปที่ช่องศุกร์ ๖ ศุกร์ ๖ จะเป็นบริวารจร ต่อจากนั้นพออายุ 10-19-28-37-46-55-64-73-82-91 ปี ทักษาจรปีจะไปตกที่ทักษาเดิมหรือทักษากำเนิด เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับอาทิตย์ ๑ เป็นทั้งบริวารเดิมและบริวารจร เรือนทักษาอื่น ๆ หรือที่ผมเรียกว่าคาถาประจำเรือนทักษา ก็จะเป็นทั้งเดิมและจรพร้อมกัน เช่นเดิมเป็นอายุก็จะเป็นอายุจร เดชเดิมก็จะเป็นเดชจร ศรีเดิมก็จะเป็นศรีจร มูลละเดิมก็จะเป็นมูลละจร อุตสาหะเดิมก็จะเป็นอุตสาหะจร มนตรีเดิมก็จะเป็นมนตรีจร กาลกิณีเดิมจะเป็นกาลกิณีจร หมายถึงว่าอะไรที่เคยดีก็จะดีเป็น 2 เท่า ถ้าร้ายก็จะร้ายเป็น 2 เท่าทันที เช่นถ้าคนที่เกิดวันพุธ อังคาร ๓ เดิมจะเป็นกาลกิณี พออายุจรมาตกที่พุธ ๔ อังคาร ๓ ก็เป็นกาลกิณีจร แบบนี้เข้าทำนองอังคาร ๓ กาลกิณีเดิมเป็นกาลกิณีจรแรงเป็น 2 เท่า ขับรถชนคนตาย บางรายถึงกับตนเองเสียชีวิตด้วย ถ้าหากจะกล่าวถึงแนวทางด้านการพยากรณ์ดวงทักษาจรพอจะสรุปได้ดังนี้

v    บริวารเดิมเป็นกาลกิณีจรทายได้ว่าต้องระวังลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชาสร้างความเสียหายให้ หรือไม่ก็คนในบ้านทำให้ต้องเดือดร้อน เสียเงินทอง แต่ถ้าบริวารเดิมเป็นศรี มนตรี เดชจรจะกลายเป็นว่าลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา หรือคนในบ้านดี อยู่ในโอวาท ไม่สร้างความเดือดร้อนใจให้ อาจจะได้ลาภผลจากบริวารด้วย ถ้าตำแหน่งกลาง ๆ ก็ถือว่าดีมากว่าร้าย

v    อายุเดิมเป็นกาลกิณีจร ทายได้ว่าในช่วงนั้นต้องระวังเกี่ยวกับสุขภาพ อาจต้องพบหมอบ่อย เพราะเจ็บป่วยบ่อย แต่ถ้าเป็นศรี มนตรี เดชจรก็ถือว่าสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลาง ๆ จะดีมากว่าร้าย

v    เดชเดิมเป็นกาลกิณีจร ถูกใส่ร้ายป้ายสี  นินทาว่าร้ายทำให้เสียชื่อจากบุคคลอื่น แต่ถ้าเป็นศรี มนตรี เดชจร จะได้รับความเกรงขามจากคนรอบข้าง หรือได้รับการสรรเสริญเยินยอต่าง ๆ นา ๆ ถ้าเป็นกลางก็ไม่เสียหาย แต่ก็ไม่เด่นนัก

v    ศรีเดิมเป็นกาลกิณีจร ถือว่าเสียหายบ้างแต่ก็ไม่หมดเสียทีเดียว ได้ครึ่งเสียครึ่ง ถ้าคิดหวังอะไรไว้ก็ได้ไม่เต็มตามที่ต้องการ แต่ถ้าศรีเดิมเป็นศรี มนตรี เดชจร ดีเป็น 2 เท่าต้องการอะไรได้สมความปรารถนาทุกประการ ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลาง ๆ เช่นเป็นบริวารจร อายุจร มูลละจร อุตสาหะจรไม่เป็นไรยังมีดีมากกว่าร้าย

v    มูลละเดิมเป็นกาลกิณีจร เดินทางย้ายบ้าน ย้ายงาน คิดขายของเก่ากิน เช่นขายบ้านหรือที่ดินที่เป็นมรดกเดิม แล้วก็ไม่ได้ราคาดี แถมบางรายขายมาได้ก็ปลดหนี้หมด ไม่มีเหลือ ถ้ามูลละเดิมเป็นศรี มนตรี เดชจรขายได้ราคาดี หรือถ้าซื้อต่อไปข้างหน้าจะมีค่ามากกว่าเดิม หรือซื้อของแพงได้ในราคาถูก ถ้าอยู่ในตำแหน่งอื่นยังถือว่าดีมากกว่าเสีย

v    อุตสาหะเดิมเป็นกาลกิณีจร ท้อแท้ เบื่องาน ออกจากงาน คิดทำอะไรก็ไม่มั่นคง ถ้าเป็นศรี มนตรี เดชกลับดี ขยันหมั่นเพียรในการทำงาน ทำงานอย่างทุ่มเท สนใจหน้าที่การงานอย่างดี ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลาง ๆ เช่นเป็นบริวารจร อายุจร มูลละจรก็ไม่มีอะไรเสียหาย

v    มนตรีเดิมเป็นกาลกิณีจร เสียบิดามารดา ขาดผู้อุปถัมภ์ หากต้องไปขอความช่วยเหลือจากใครมักผิดหวัง ถ้าศรี เดชจรกลับดีขึ้น คือจะมีคนให้ความเป็นห่วงเป็นใย ทำกิจการอะไรมีคนให้ความช่วยเหลือ เป็นอย่างอื่นก็ถือว่าไม่เสีย อาจมีดีบ้าง

v    กาลกิณีเดิมเป็นกาลกิณีจรให้โทษเป็น 2 เท่าเสมอ ต้องระวัง แม้จะเป็นศรี มนตรี เดชจรก็ไม่ควรไว้ใจ  ยิ่งเป็นกลางก็ถือว่ายังร้าย เผลอหรือประมาทเมื่อใดได้เรื่อง

 

ที่นำมาสรุปไว้ข้างบนนี้เป็นเพียงหลักทั่วไปในการพยากรณ์ดวงทักษาจร การที่ท่านใดจะปรับปรุงตบแต่งคำพยากรณ์ให้สละสลวยงดงามกว่าที่ผมว่า ยิ่งเป็นการดี แต่ก็จะไม่หนีข้อสำคัญเหล่านี้ไปได้ หากท่านเข้าใจทั้งหลักการทายดวงทักษาเดิม ดวงทักษาจรปี และดวงทักษาจรเดือนแล้ว การจะก้าวเลื่อนชั้นขึ้นไปทายดวง 12 ราศีจักรก็จะไม่เป็นการยาก

แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นขอรวบรัดเอาการทายจรเดือนมากล่าวกันก่อนสักเล็กน้อย เพราะแม้จะนำมาใช้ไม่บ่อยนักแต่ทุกท่านที่สนใจวิชาโหราสาดตามแนวเดียวกับผม ก็ควรทราบไว้บ้าง

 

การทายจรเดือน

เป็นที่รู้กันแล้วว่าการทายจรปีต้องเริ่มต้นมาจากดวงทักษาเดิม ดังนั้นเมื่อเราต้องการทายลึกลงไปถึงจรเดือนก็ต้องมาเริ่มกันที่จรปี สมมุติคนเกิดวันศุกร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๔๗๙ ทายจรปีมาถึงปีนี้ คือปี ๒๕๔๘ เท่ากับอายุย่าง ๖๙  ดวงทักษาเดิมตกที่ศุกร์ ๖ เป็นบริวาร ฯลฯ ทักษาจรปีก็จะมาตกที่พุธ ๔ พุธ ๔ เป็นบริวารจรปี ดังนั้นทักษาจรเดือนก็ต้องเริ่มต้นที่พุธ ๔ คือนับเดือนเกิด พฤศจิกายนที่พุธ ๔ นับเดือนธันวาคมที่เสาร์ ๗ เดือนมกราคมที่พฤหัส ๕ ซึ่งจะตรงกับความเป็นจริงในข้อที่ว่าเจ้าชะตาที่สมมุตินี้อายุจะเต็ม ๖๙ ในเดือนเกิด คือเดือนพฤศจิกายน วันที่ ๑๓ พอขึ้นวันที่ ๑๔ เท่ากับอายุย่าง ๗๐ ปี

 

อ่านตามภาษาการพยากรณ์ว่า ศรีเดิมคืออังคาร ๓ เป็นกาลกิณีจรปี เป็นกาลกิณีจรเดือนในเดือนพฤศจิกายน และจะเป็นมนตรีจรเดือน ในเดือนธันวาคม คำพยากรณ์ก็จะออกมาว่าในปีที่อายุ ๖๙ นั้นต้องระวังเกี่ยวกับอุบัติเหตุ และที่แรงมากขึ้นก็คือเดือนพฤศจิกายนหรือเดือนเกิดนั่นเอง โดยเฉพาะถ้าในเดือนดังกล่าว อังคาร ๓ กำลังทับลัคนา